วันนี้ ทาง thumbsup ได้เข้าร่วมงานเปิดตัว Line today ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นศูนย์กลางข่าวออนไลน์อันดับ 1 ของไทย พร้อมดึงทั้งสื่อเก่าและใหม่เข้าร่วมแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้มีกว่า 120 แห่งแล้วก็ตาม
นายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า การทำสื่อในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งสื่อเก่าอย่าง Print media และสื่อใหม่อย่าง Online media ต่างก็ต้องหาวิธีการให้คนเข้าใช้งานช่องทางของตนเอง ซึ่งในยุคที่ข่าวหาง่ายแค่มีมือถือก็เป็นข่าวได้แล้ว ยิ่งทำให้แข่งขันสูงและจำนวนคอนเทนต์ในออนไลน์ก็มีเยอะมาก การคัดกรองข่าวจริงข่าวเท็จก็เป็นเรื่องยาก ดังนั้น LINE TODAY ธุรกิจในเครือของ LINE ประเทศไทย จึงนำรูปแบบการให้บริการนี้มาเปิดให้บริการในไทย
“ต้นกำเนิดของ LINE TODAY มาจากญี่ปุ่นคือ line news digest และเลือกประเทศที่มีจำนวน LINE User เยอะ อย่างประเทศไทย อินโดนีเซีย ไต้หวัน และฮ่องกง ซึ่งไทยถือว่าเป็นประเทศที่ 2 ในการเปิดให้บริการและมีผู้ใช้งาน LINE TODAY มากเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศที่เปิดให้บริกาพร้อมกันโดยใช้ชื่อบริการเดียวกัน”
เม็ดเงินโฆษณาในช่วง 2-3 ปีมานี้ต้องยอมรับว่าลดลงกว่า 20% เลยทีเดียว ในขณะที่จุดแข็งของ LINE TODAY คือมีผู้อ่านสูงกว่า 1,000 ล้านครั้ง/เดือน จากฐานผู้ใช้งานที่สูงถึง 32 ล้านคน โดยจำนวนผู้อ่านคิดเป็น 71% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้ว
“เราอาจไม่ได้ตั้งตัวเลขการเติบโตสูงนัก เพราะจาก 1-32 ล้านยูสเซอร์ก็โตเร็วมากแล้วในระยะเวลาเพียง 2 ปี และจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งประเทศอยู่ที่ 45 ล้านคน จึงไม่ได้ตั้งเป้าเติบโตมากนัก ถ้าต่อจากนี้ทำได้สัก 1 ดิจิทก็ถือว่ามีการเติบโตที่ดีแล้ว”
อีกปัจจัยหลักที่คนอ่าน LINE TODAY เติบโตอย่างรวดเร็ว คือ อัพเดทเร็ว อ่านได้ทันทีไม่ต้องดาวน์โหลดแอปใหม่ เข้าใช้งานง่ายเพียงกดแท็บที่ 4 ใน LINE chat ก็เข้าถึงคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งพาร์ทเนอร์เข้ามามีบทบาทอย่างมาก เพราะความหลากหลายของคอนเทนต์นั้นทำให้เรามี engagement สูง ค่าเฉลี่ยการอ่านคอนเทนต์อยู่ที่ 38 pageview /คน/เดือน ซึ่ง 76% เข้ามาดูคอนเทนต์ทุกวัน และทุกคนที่เข้ามาอ่าน 50% สนใจโฆษณาที่ลงในแพลตฟอร์ม ทำให้เกิดโอกาสที่จะซื้อสินค้านั้นมากด้วย
ทางด้าน นายชรัตน์ เพ็ชร์ธงไชย หัวหน้าธุรกิจ LINE TODAY, LINE ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ธีมหลักของบริการ LINE TODAY คือต้องการเป็นสื่อกลางให้คนอ่านคอนเทนต์สะดวกขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าผู้ใช้งาน LINE มีทุกกลุ่มทุกช่วงอายุจึงต้องมีเนื้อหาให้ครอบคลุม ซึ่งเราไม่สามารถผลิตคอนเทนต์ได้เองทั้งหมด 100% ดังนั้น 95% ของเราจึงมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ส่วนอีก 5% เราผลิตเองแต่เป็นคอนเทนต์วีดีโอ ซึ่งก็ร่วมมือผลิตกับพาร์ทเนอร์ในส่วนของการผลิตและเผยแพร่ใน LINE TODAY ก่อนและรับชมย้อนหลังได้ที่ LINE TV
“ตอนนี้มีคอนเทนต์ที่ผลิตร่วมกัน 6 รายการ คือ HEADLINE TODAY, ข่าวเด็ดเด็กตอบ, อาม่าแอนด์เดอะแก๊ง เลือกได้เลือกดี และล่าสุดจะมีทอมก้องร้องทุกข์และ พ.พาทินี ซึ่งก็ตอบโจทย์ความต้องการแต่ละด้านให้คนที่อ่าน LINE TODAY ซึ่งในครึ่งปีหลังจะมีการผลิตคอนเทนต์เพิ่มมากกว่านี้”
ทางด้านของการสร้างรายได้นั้น จะมีการขายแพคเกจหลายรูปแบบ แต่ทางสำนักข่าวต้นทางที่นำข่าวมาลงบนแพลตฟอร์มจะมีการแบ่งรายได้จากการโฆษณาให้ หรือทางสำนักข่าวจะขายโฆษณาเองก็ย่อมทำได้เช่นกัน
“บริษัทยังมั่นใจว่าสิ่งที่ return ให้พาร์ทเนอร์มีหลายเรื่องหลักๆ คือ รายได้จากการโฆษณาให้พาร์ทเนอร์, trafic การเข้าชมของ user ที่เข้ามาอ่านและ click กลับไปที่ต้นทางของข่าว ซึ่งเจ้าของข่าวที่เป็นต้นทางสามารถขายโฆษณาเสริมได้ เพราะยอด CTR(click through rate) ของเราอยู่ที่ 8-10% ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับการโฆษณาออนไลน์”
ทางด้านของประเภทข่าวที่คนดูเยอะสุด 5 เรื่อง คือ ข่าวทั่วไป, บันเทิง, ดูดวง, กีฬาและไลฟ์สไตล์ อายุเฉลี่ยคนอ่าน 25-34 ปี และหวังให้คนที่เข้าชมวันละ 1 คนเพิ่มเป็นวันละ 2 ครั้ง ส่วนทีมงานที่ช่วยคัดกรองข่าวขณะนี้มีอยู่ที่ 14 คนและช่วงเย็นหลังเลิกงานเป็นช่วงเวลาที่มีคนใช้งาน LINE TODAY มากที่สุด