เรียกว่าความพยายามในการปั้น LINE TV มาตลอดหลายปีนั้น ช่วยจุดกระแสโด่งดังได้เพราะซีรี่ย์วาย หรือคอนเทนต์ประเภทชายรักชาย สำหรับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ ที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งช่องทางการรับชมคอนเทนต์ทุกประเภทในช่วงเวลาท่ีต้องการ และผู้รับชมคอนเทนต์นั้นก็เปิดใจยอมรับการมีโฆษณาคั่นในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น
แม้ว่าการเปิดให้บริการในช่วงแรกของ LINE TV นั้น จะเป็นการรับชมฟรีและต้องยอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อมาให้บริการบนแพลตฟอร์มมากมาย แต่เมื่อกัดฟันสู้มาถึงตอนนี้ ก็บอกได้เลยว่ามีโอกาสอยู่อีกมากในการหารายได้และวันนี้ก็เริ่มเห็นชัดขึ้นแล้ว ทั้งรายได้จากการโฆษณา รายได้จากโฆษณาแฝงในเนื้อหา การขายสติกเกอร์ ขายเพลงประกอบละคร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญของทั้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการคอนเทนต์ด้วย
และ LINE TV ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางรอดสำคัญของผู้ผลิตคอนเทนต์ ซีรี่ย์และภาพยนตร์ในอนาคตก็เป็นได้
กณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย “จากการสำรวจพบว่าพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ที่รับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทั่วโลกเมื่อเทียบกับการรับชมบนทีวีจากหลายปัจจัย สำหรับในเมืองไทย การรับชมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็จะโตขึ้น 15% ในปี 2024
จากปี 2018 โดยแพลตฟอร์มออนไลน์ประเภท AVOD (Ad-Supported VDO on Demand) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีรายได้จากการโฆษณาโดยผู้ชมไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อชม จะเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 50% เกือบเทียบเท่าฐานผู้ชมบนทีวี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นเหมือนตัวกระตุ้นให้ผู้ชมปรับตัวหันมาชมคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากยิ่งขึ้น
เห็นได้ชัดจาก LINE TV ที่มียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 43% และใช้เวลาดูนานขึ้นรวม 43% ด้วยเช่นกัน ขณะที่ด้านผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศนั้นก็จะถูกดึงฐานผู้ชมโดยแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก ซึ่งมีโปรดักชั่นคอนเทนต์ขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน จากปัจจัยเหล่านี้ LINE TV จึงเล็งเห็นว่าเป็นทั้งตัวกระตุ้นและโอกาสสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศและเหล่าแบรนด์ต่างๆที่จะให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์ม OTT TV โดยเฉพาะประเภท AVOD ที่กำลังจะมีบทบาทเป็นอย่างมากในตลาดคอนเทนต์ไทย”
LINE TV ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AVOD จึงได้ชู 6 ปรากฏการณ์กลยุทธ์ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำทิศทางในการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มในตลาด OTT TV เมืองไทย ดังนี้
ปรากฏการณ์ที่ 1: พลังแพลตฟอร์มผลักดันคอนเทนต์ไทยสู่ผู้ชมทั่วโลก – ในปีที่ผ่านมา LINE TV ได้ลุล่วงพันธกิจ Content Digitalization Engine for Thais ผลักดันส่งออกคอนเทนต์ไทยหลากหลายประเภท โดยเฉพาะ LINE TV Original Content ไปสู่สายตาผู้ชม 28 ประเทศทั่วโลก
ปรากฏการณ์ที่ 2: ดันกระแส Boy’s Love ให้แมส สร้าง Engagement สูงสุด – LINE TV มีซีรีส์วายมากที่สุดในไทยกว่า 39 เรื่อง (ตุลาคม 2563) และฐานผู้ชมโตขึ้นถึง 3 เท่าตัวในทุกช่วงวัยในช่วงปีที่ผ่านมาซึ่งจาก Y-Economic Study การสำรวจพฤติกรรมเชิงพาณิชย์ในกลุ่มผู้ชมซีรีส์วายในเมืองไทย โดย LINE Insight เผยว่าผู้ชมคอนเทนต์ประเภทนี้ที่ต้องการดูซ้ำเพื่อเพิ่มยอดวิวให้สูงขึ้น ต้องการเชื่อมต่อกับคอมมูนิตี้บนโซเชียลมีเดียขณะรับชม แพลตฟอร์มที่อีโคซิสเต็มสามารถรองรับพฤติกรรมเหล่านี้ได้จะยิ่งช่วยทำให้คอนเทนต์นั้นโด่งดังและสร้าง Engagement กับผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น เป็นโอกาสที่แบรนด์ต่างๆเข้าไปมีส่วนร่วมได้หลากหลายรูปแบบ
ปรากฏการณ์ที่ 3: เพิ่มความหลากหลายและทางเลือกเพื่อผู้ชม – LINE TV มุ่งสร้างความหลากหลายทั้งในเชิงคอนเทนต์และประสบการณ์รับชม เช่น เพิ่มคอนเทนต์ LGBTQ+ คุณภาพต่อยอดจากความนิยมของซีรีส์วาย เพิ่มคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ไทยมืออาชีพ เพิ่มอะนิเมชั่นเรื่องดัง ซึ่งเป็นอีกประเภทที่ได้รับความนิยมจากการที่ยอดรับชมเติบโตสูงถึง 112 %
ทั้งยังรุกหน้าติดตั้งแอปฯ LINE TV ในทีวีหลากหลายแบรนด์ รวมถึงการจับมือกับ TCL เพื่อผลิตทีวีรุ่นพิเศษ “LINE TV” Custom TV รุ่นแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษมากมายเพื่อผู้ชม LINE TV แบบไม่มีโฆษณาคั่นนาน 1 ปี จากพฤติกรรมการชมบนจอใหญ่ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 129% และ ยอดรับชม LINE TV บนจอใหญ่เพิ่มถึง 55% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ปรากฏการณ์ที่ 4: King of Thai Content แห่ง OTT TV ไทย – LINE TV มีพันธมิตรคอนเทนต์มากถึง 250 ราย สามารถผลิตคอนเทนต์ไทยที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะ LINE TV Original Content ที่มีมากถึง 78 คอนเทนต์ (ตุลาคม 2563) การันตีคุณภาพด้วยรางวัลทั้งในประเทศและนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับรางวัล Asian Academy Creative Awards 2020 รอบประเทศไทยก่อนจะเข้าชิงในระดับนานาชาติปลายปีนี้ และรางวัล 2020 Asia Contents Awards อีกด้วย
สำหรับ 3 LINE TV Original ที่จะออกมาสร้างกระแสความนิยมในช่วงปลายปีนี้ อย่าง The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่, แปลรักฉันด้วยใจเธอ และ The Secret เกมรัก เกมลับ ที่กำลังจะลงจอในเดือนธันวาคมนี้ก็ต่างจับกลุ่มผู้ชมที่หลากหลายแตกต่างกัน
ปรากฏการณ์ที่ 5: สร้าง Enjoyment Journey บนอีโคซิสเต็ม ติดปีกให้คอนเทนต์ – LINE TV สร้าง Enjoyment Journey ที่เชื่อมโยงเข้ากับบริการต่างๆบน LINE Ecosystem เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การชม เป็นการติดปีกให้ผู้ผลิตพาคอนเทนต์เข้าถึงฐานผู้ชมได้มากกว่าที่เคย อย่างที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากกระแสซีรีส์วายในแคมเปญ “อินจิ้นฟินเวอร์” ที่สร้างสถิติสูงสุดให้กับบริการต่างๆที่ร่วมแคมเปญมาแล้ว
นอกจากนี้จึงเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ As Seen on TV ต่อยอดจากแนวคิดดังกล่าว ให้ผู้ชมสามารถช็อปปิ้งสินค้าที่อยู่ในคอนเทนต์บน LINE TV ต่อได้เลยทันที โดยอยู่ในแท็บ Wallet บนแอปฯ LINE
ปรากฏการณ์ที่ 6: แพลตฟอร์ม Top of Choice ของผู้ชมและนักการตลาด – ด้วยยอดวิวรวมกว่า 6 พันล้านวิวในแต่ละปี LINE TV ยังเป็นแพลตฟอร์มที่นักการตลาดเลือกลงโฆษณามากที่สุด จากการที่มีคอนเทนต์ทันกระแส หลากหลาย เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างอย่างทั่วถึง ทั้งยังไม่มีโฆษณา Mid-roll คั่นขณะชมโดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิกแบบพรีเมี่ยม โดยในเร็วๆนี้จะยังมีการเปิดตัวเครื่องมือวัดผลและวางแผนการซื้อโฆษณาร่วมทั้งบนทีวี และ LINE TV เพื่อวัดการรับชมจากทุกอุตสาหกรรมทีวีเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้อย่างแม่นยำมากที่สุดอีกด้วย
“การจะเป็นผู้นำบนตลาด OTT TV ในเมืองไทยของ LINE TV ได้นั้น ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มบันเทิงของผู้ชมอย่างเดียว แต่เรายังมุ่งผลักดันอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยให้เติบโตรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนไป ทั้งยังพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์นักการตลาดด้วยโซลูชั่นใหม่ๆเพื่อขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรมคอนเทนต์ให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกันอีกด้วย” กณพ กล่าวสรุป