เรื่องของ Original Content กำลังเป็นกระแสโด่งดัง เนื่องจากมีการลงทุนอย่างหนักหน่วงจาก Netflix ผู้ให้บริการด้านสตรีมมิ่งออนไลน์ ลงทุนด้านคอนเทนต์ไปไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้มีเนื้อหาคอนเทนต์ท้องถิ่นและเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก หรือแม้แต่ VIU ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งสัญชาติเกาหลีก็เริ่มเข้ามาเล่นในตลาด Original Content แล้ว
สำหรับในไทยเอง ต้องยอมรับว่า LINE TV เอง ได้เข้ามาจับตลาดนี้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน โดยซีรี่ส์เรื่องแรกที่ผลิตคือการเริ่มต้นความร่วมมือกับทาง GTH กับเรื่อง STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ ด้วยความร่วมมือจาก SAGA Prefectural Government และ Saga Prefecture Film Commission สร้างเรื่องและเขียนบทโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ และต่อเนื่องมาอีกหลายเรื่องหลายแนว
วันนี้ ทาง Thumbsup ได้รับเกียรติจากคุณกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย มาร่วมพูดคุยและให้ข้อมูลที่น่าสนใจกับท่านผู้อ่านกันค่ะ
จุดเริ่มต้นของ LINE TV
LINE TVเกิดขึ้นมา 4 ปีที่แล้ว เรายังไม่มีสตรีมมิ่งเซอร์วิสที่ชัดเจน ยกเว้น Youtube แพลตฟอร์มที่น่าจะเข้ามาในไทยได้ ซึ่งบริษัทเราเป็นลูกครึ่งและเห็นโอกาสเมื่อเราสำเร็จพอควรก็เลยเริ่มคัดเลือกคอนเทนท์เข้ามาทั้งออริจินัลและแบบรีรัน โดยตอนนี้เราก็เป็นผู้นำในตลาดนี้ เพราะใช้เวลาผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ มาตลอด
- จากการทำ Original Content มา 5ปี ได้เห็นอะไร เรียนรู้อะไร
การลงทุนเป็นเรื่องของโอกาส ในประเทศมีผู้ผลิตเก่งเยอะและช่องทางไม่เยอะออนไลน์แพลตฟอร์มไม่เยอะถือว่าสำเร็จมากทั้งรีรันและ Original การมีสองแบบช่วยดึงกันและกัน
ข้อดีคือเราเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างในทดลองของใหม่ๆได้ อย่างเช่น ซีรีย์วัยรุ่นชายรักชาย ที่ตอนแรกคนไม่กล้าลงในช่องทีวีเพราะเค้าก็มีเงื่อนไขในการผลิต พอเทรนด์มาก็สามารถนำไปสร้างและฉายในช่องทีวีปกติได้
จำนวนของคอนเทนต์รีรันยังคงมีเยอะกว่า เพราะเรามีจำนวนช่องทีวีเยอะ แต่เราก็ยังมองหาผู้ผลิตรายใหม่ๆ เพราะต้องการคอนเทนต์ที่แตกต่าง หลากหลายและผู้ผลิตหลายคนก็เป็นทีมงานที่มีคุณภาพ
ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าจะเข้ามาทดแทนช่องทีวีดิจิทัล เพราะการ Disruption TV เนี่ย อาจะเป็นเพราะคู่แข่งที่เยอะขึ้น ทำให้เม็ดเงินโฆษณากระจายไปยังช่องทางใหม่ๆ เยอะขึ้น สิ่งที่เราต้องการคือการขยายฐานผู้ใช้งานมากกว่า ไม่ใช่เข้ามาทดแทนกัน ตอนนี้มีทางเลือกมากขึ้น และดูสิ่ง
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
จากสถิติยอดรับชม LINE TV ยังคงโต 80% ทุกปี ยอดใช้จ่ายโฆษณาออนไลน์โต 20-30% ทุกปี แต่ก็ยังเป็นเม็ดเงินเพียง 10% ของภาพรวมธุรกิจสื่อ
ทั้งนี้ ทุกพาร์ทเนอร์ที่เรามี เป็นการหาโอกาสใหม่ๆ เกี่ยวกับกระบวนการผลิตชิ้นงานที่จะทำออกมาและขายโฆษณาผ่านทีวีอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ถ้ามองโอกาสใหม่ๆ เช่น ขายผ่านไลน์ หรือพาร์ทเนอร์กับต่างประเทศ จะเป็นโอกาสใหม่ๆ คือต้องมองให้กว้างไม่ใช่จำกัดแค่ช่องทางเดียวอีกแล้ว
มองอย่างไรในเรื่องการแข่งขันอันดุเดือดของ Viu กับ Netflix
สิ่งที่สำคัญ Target คนละแบบ การลงทุนของเราเน้นที่คุณภาพและความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมผู้ผลิตในไทยและมีดาต้าพ้อยเยอะ
ธีมในการผลิตคอนเทนท์สำหรับเราคืออันไหนเวิร์ค หรือคิดอะไรใหม่ๆ เราสนใจ เพราะการที่เราให้คนดูฟรี แบบไม่มีแบบริเออร์ ทำให้กระบวนการผลิตต้องมองถึงกลุ่มแมสมากๆ และมีความหลากหลาย
ด้านจำนวนเราไม่ได้ผลิตเยอะ ไม่คิดจะแข่งกับทีวีดิจิทัลโดยตรง เพราะต้องการเปิดการทดลองคอนเทนท์ใหม่ๆ ที่ไม่มีใครทำ เปิดกว้าง และยังลองได้หลายอย่าง
กลยุทธ์ปีนี้
เรายังคงเปิดกว้างที่จะหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ เสมอ โดยตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มีความร่วมมือกับทีม Barecave ของ Ookbee ในการผลิตซีรี่ส์ ยังมีทีมของปู ไปรยา ทีมกันตนา และในขณะเดียวกันก็ยังมองหาความร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นงานที่น่าสนใจต่อเนื่อง
ด้านจำนวนในการผลิตไม่ได้คิดจะเน้นด้านปริมาณให้มากขึ้นเพื่อมาแข่งกับใคร แต่เน้นคอนเทนต์ที่น่าสนใจมากกว่า เรายังอยากได้เนื้อหาที่หลากหลาย