Site icon Thumbsup

ใช้ได้แล้ว! “คนละครึ่ง” ผ่านแอปเดลิเวอรี่

เมื่อช่วงกรกฏาคมที่ผ่านมา LINE MAN ได้ปิดระบบการใช้จ่ายของโครงการคนละครึ่งไป เนื่องจากกระทรวงการคลังเตือนว่าผิดเงื่อนไขในการใช้บริการเพราะต้องใช้งานแบบเจอหน้ากันเท่านั้น ซึ่งมีการส่งหนังสือเตือนถึง 2 ครั้ง ทำให้ต้องปิดการใช้งานโครงการนี้ไปช่วงหนึ่งท่ามกลางเสียงบ่นระงมของผู้ใช้งานที่ไม่ต้องออกจากบ้าน

ล่าสุด LINE MAN ออกมาประกาศความชัดเจนอีกครั้งแล้วว่า กระทรวงการคลังได้ปรับเปลี่ยนนโยบายคนละครึ่งเฟส 3 เพื่อให้ใช้งานกับฟู้ดเดลิเวอรี่เรียบร้อยและเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเตรียมความพร้อมได้แล้ว ตั้งแต่ 24 กย.นี้ และเปิดให้ใช้งานจริงวันที่ 4 ตค.นี้

คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการระบาดของโควิด-19 ต้องขอบคุณกระทรวงการคลังที่ปรับเปลี่ยนนโยบายให้คนละครึ่งเฟส 3 สามารถใช้กับบริการฟู้ดเดลิเวอรีได้แล้ว ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสั่งอาหาร โดยจ่ายผ่านคนละครึ่งแบบไม่ต้องไปซื้อเองที่หน้าร้าน และกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการร้านอาหาร และไรเดอร์จำนวนมาก

สำหรับร้านอาหารที่สมัครขาย “คนละครึ่ง” กับ LINE MAN ในระหว่างวันที่ 24 กันยายน – 31 ธันวาคม 2564 ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน จะได้รับสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็ม ได้แก่

ร้านอาหารที่สนใจสมัครขาย “คนละครึ่ง” กับ LINE MAN สามารถอ่านรายละเอียดเตรียมความพร้อมก่อนสมัครได้ที่ https://bit.ly/3nmHAMe โดยจะเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน – 31 ธันวาคม 2564 ในช่วงเวลา 06:00 – 23:00 น. ผ่านแอปฯ ถุงเงินหรือคลิก ถุงเงินกรุงไทย.com

นอกจากนี้ ยังดึง “พิมรี่พาย” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญใหญ่ปลายปี “คุ้มคนละชั้น” ช่วยกระตุ้นยอดขายร้านอาหารทั่วไทยสำหรับผู้ใช้สิทธิคนละครึ่ง LINE MAN ได้เตรียมส่วนลดแบบคุ้มคนละชั้นเพิ่มเติมสูงสุดถึง 60% สำหรับร้านที่ร่วมรายการ ส่วนลดค่าจัดส่ง และดีลสุดคุ้มรวมมากกว่า 22,000 ดีลบนแอปฯ LINE MAN

ทางด้านของ GRAB ก็ส่งแคมเปญใหญ่ “แกร็บฟู้ด สั่งเถิดชาวไทย” กระตุ้นยอดขายให้ร้านอาหารในไตรมาสสุดท้าย ชู 3 ไฮไลท์มัดใจพาร์ทเนอร์ร้านค้า-ผู้ใช้บริการ โปรโมตร้านเด็ด-ราคาสุดคุ้มจากร้านอาหารในกลุ่ม“#GrabThumbsUp” (ร้านอร่อยยกนิ้ว) และ “คุ้มฟันธง” เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” หนุนมาตรการรัฐ-ลดค่าคอมมิชชันสูงสุดไม่เกิน 20% สำหรับร้านที่ร่วมโครงการ พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 60% และดีลสุดปังกว่า 20,000 ดีลเอาใจผู้บริโภค หวังลดภาระค่าใช้จ่ายให้คนไทยในช่วงวิกฤติโควิด

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาลได้ประกาศคลายล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้มเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เราได้เริ่มเห็นสัญญาณการบริโภคภายในประเทศที่กลับมาคึกคักขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการจัดโปรโมชันและกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อจูงใจผู้บริโภคอย่างแคมเปญ 9:9 ในส่วนของแกร็บ

เราขอร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสที่ 4 โดยได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุดที่ชื่อ ‘แกร็บฟู้ด สั่งเถิดชาวไทย’ เพื่อสร้างดีมานด์และยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา พร้อมช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้คนไทยด้วยโปรโมชันแบบจัดเต็ม

“โดยแคมเปญนี้แกร็บฟู้ดยังคงตอกย้ำจุดแข็งในเรื่องความหลากหลายของประเภทอาหารโดยได้ดึงจุดเด่นของอาหารในแต่ละภาคที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นมาให้ผู้ใช้บริการได้เลือกสรร ควบคู่ไปกับบริการที่น่าเชื่อถือโดยการันตีส่งไวภายใน 25 นาที ผ่านกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบ พร้อมเตรียมผนึกกับ TikTok เพื่อสร้างเอนเกจเมนต์กับผู้บริโภคทั่วประเทศ”

โดยแกร็บเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการแพลตฟอร์มที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ “คนละครึ่ง” ในเฟสที่ 3 ซึ่งเตรียมเปิดให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายในการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรีได้ โดยแกร็บปรับลดค่าคอมมิชชันให้พาร์ทเนอร์ร้านอาหารที่ร่วมโครงการฯ ในอัตราไม่เกิน 20%*

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อจูงใจร้านค้า อาทิ การช่วยโปรโมตร้านผ่านสื่อและแอปพลิเคชันของแกร็บ การเปิดให้เข้าร่วมกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงสินเชื่อเงินสดจาก แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ ร้านอาหารที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน จนถึง 31 ธันวาคม 2564 นี้

โดยแกร็บเตรียมจัดโปรโมชันเพื่อมอบส่วนลดสูงสุดถึง 60% รวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 ดีลจากร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ อาทิ โปรโมชัน “เซตอิ่มคุ้ม” ในราคาเดียวที่เริ่มต้นเพียง 69 บาทสำหรับร้านในต่างจังหวัด และ 99 บาทสำหรับร้านในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังส่งโปรโมชันสำหรับผู้ใช้บริการใหม่ มอบส่วนลดทันที 99 บาท และรับสิทธิส่งฟรีถึง 99 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน จนถึง 24 ตุลาคม 2564