Linkedin พัฒนาโฆษณาแบบวีดีโอใน Feed สำหรับภาคธุรกิจใกล้เสร็จพร้อมให้บริการแล้ว หลังเปิดให้มีการทดสอบเมื่อตุลาคมที่ผ่านมา
Jen Brady รองประธานฝ่ายสื่อสารของ LikedIn ได้กล่าวแนะนำว่า เครื่องมือนี้จะช่วยให้บริษัทมืออาชีพทำงานได้ดีขึ้น เพราะช่วยให้แบรนด์สามารถโฆษณาแบบ B2b ได้ เพราะสามารถแทรกความคิดเห็นของผู้นำได้มากกว่าแค่โฆษณาเพียงอย่างเดียว
โดย Linkedin แบบ B2b จะช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น เช่น ตำแหน่งงานระดับสูง บริษัทหรืออุตสาหกรรมที่ต้องการ รวมทั้งทักษะของผู้สมัคร รวมทั้งจับคู่ระหว่างผู้ที่สนใจชมโฆษณาและผู้ลงโฆษณาได้ผลในระดับเชิงลึกด้วย
Brady แสดงความมั่นใจว่าระบบดังกล่าวจะมีการคัดกรองข้อมูลได้แม่นยำกว่าสังคมเครือข่ายอื่นๆ เพราะลูกค้าที่ใช้งานของ Linked ต้องการข้อมูลและประวัติการทำงานที่แม่นยำและเจาะจงกว่าแค่ข้อมูลส่วนตัวหรือไลฟ์สไตล์แบบผิวเผิน ดังนั้นผู้ลงโฆษณาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้รับชม รวมทั้งนับจำนวนผู้ที่เข้ารับชมวีดีโอผ่านเว็บไซต์และการกระทำอื่นๆ หลังชมโฆษณา ซึ่ง Linkedin ได้บรรลุข้อตกลงกับ Moat ในการเข้ามาช่วยเก็บข้อมูลการรับชมและวัดความสามารถในการแสดงโฆษณาว่าแม่นยำจริงหรือไม่
จากผลการศึกษาภายใน Linkedin พบว่า 46% ของนักการตลาด b-to-b เชื่อว่า การหาคุณภาพของผู้รับชมวีดีโอถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมากในการทำแคมเปญบนแพลตฟอร์มอื่นๆ และผู้ใช้งานต้องคาดหวังให้วีดีโอที่แสดงผลถูกปรับขนาดให้เหมาะกับมือถือของพวกเขา ดังนั้น แบรนด์ต้องพัฒนาเรื่องประสบการณ์ในการรับชมให้ดี และเรียนรู้ด้วยว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้วีดีโอบน facebook และ Twitter ยังเข้าไม่ถึงโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ
ทางด้านของ Linkedin หลังจากที่ได้เปิดให้ผู้ใช้งานอัพโหลดวีดีโอได้เมื่อสิงหาคม 2017 และเมื่อต้นเดือนก็เพิ่มตัวคัดกรองรูปและข้อความแบบ Snapchat เข้าไปและมีการแชร์วีดีโอมากกว่าช่องทางอื่นๆ ถึง 20 เท่า
Brady เชื่อว่า บริษัทต่างๆ สนใจในฟีเจอร์ใหม่นี้และจะเพิ่มเนื้อหาและข้อมูลไปบนเว็บไซต์ขององค์กรมากขึ้น และเชื่อว่าเป็นโอกาสสำหรับ Linkedin ในการแย่ง market share ของ Youtube ในกลุ่มแบรนด์ภาคธุรกิจมาได้
ด้าน Steve Carbone หัวหน้าฝ่ายการตลาดิจิทัลและการลงทุน ของ MediaCom กล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายแบบ b-to-b ของ Linkedin จะดีกว่าสิ่งที่มีอยู่ใน Social media อื่นๆ การพัฒนาเครื่องมือในครั้งนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีซึ่งทางเราก็หวังว่าจะได้ใช้งานเครื่องมือนี้และนำไปสู่หนึ่งในเครื่องมือที่ควรแนะนำแก่ลูกค้าของเรา
Source: Adweek