เช้าวันเสาร์เป็นวันพักผ่อนของ thumbsuper หลายๆ ท่าน สำหรับข่าวนี้ก็เลยเป็นข่าวเบาๆ สำหรับคอดนตรีที่เกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดีย ซึ่งผมเคยเขียนถึงการโปรโมทอัลบัมใหม่ของราชินีเพลงป๊อปอย่าง Madonna ที่หยิบเอา Facebook และ Twitter มาเปิดตัวอัลบัมมาแล้ว?แต่ในครั้งนี้เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการโปรโมทเพลงใหม่ของวง Linkin Park จะเป็นอย่างไร ลองติดตามอ่านกันครับ
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกับวงดนตรีระดับโลกอย่าง Linkin Park ที่มีเพลงฮิตๆ ที่เราคุ้นหูเช่น In The End, Faint, Somewhere I Belong และตอนนี้เขาได้ออกอัลบัมและ Single เพลงใหม่ล่าสุด แต่แหวกแนวในการโปรโมทด้วยการทำมิวสิควิดิโอจากข้อมูล Facebook ของเรา
สำหรับเพลงที่ถูกนำมาโปรโมทมีชื่อว่า Lost in the echo ซึ่งเป็น Single ที่สองจากอัลบัมล่าสุด Living Things โดยทาง Linkin Park ได้มีแนวคิดที่จะทำมิวสิควิดิโอแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วยการใช้ข้อมูลจากการเชื่อมต่อ Facebook API ในการดึงข้อมูลของเรามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างเนื้อเรื่องในเพลงนี้ด้วยการเล็งเห็นว่าปัจจุบันนี้มีแฟนเพลงที่กด Like บน Facebook Page ของ Linkin Park เกือบ 45 ล้านคน โดยผู้สร้างเว็บไซต์นี้ชื่อว่า Jason Zada และ Jason Nickel ซึ่งทั้งคู่เคยได้รางวัล Emmy Award จากการสร้างมิวสิควิดิโอแบบอินเทอร์แอคทีฟ มาแล้ว
การดึงข้อมูลเพื่อสร้างมิวสิควิดิโอจะใช้ข้อมูลในส่วนของรูปภาพที่เรามีอยู่ใน Facebook แล้วเอาสร้างเป็นภาพที่วางอยู่ในกระเป๋าเดินทางซึ่งเป็นฉากหนึ่งของเนื้อเรื่อง ทำให้มิวสิควิดิโอนี้เหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องเราของเราเอง ซึ่งถือเป็นเทคนิคใหม่ในการรวมข้อมูลส่วนตัวมาใช้งาน โดยทาง Jason Nikel บอกว่าการทำมิวสิควิดิโอนี้ถือการใช้เทคโนโลยีจากสิ่งที่มีที่ดีที่สุดที่จะทำได้ในตอนนี้ เพราะตอนนี้ยังมีข้อจำกัดในการรวมเทคโนโลยีและข้อมูลโซเชียลมีเดียอยู่
อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ลองเข้าไปสร้างและดูมิวสิควิดิโอด้วยตัวเองจากลิงก์นี้ครับ Lost in The Echo
เราได้อะไรจากข่าวนี้
ทุกวันนี้เรามีนำโซเชียลมีเดียมาดัดแปลงให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และความนิยมเพื่อใช้ในการตลาดและการโปรโมทสินค้ากันอย่างมากขึ้น และการที่ Linkin Park หยิบเอาถือข้อมูลจาก Facebook มาสร้าง ถือเป็นการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ใช้งานและได้เป็นส่วนหนึ่งของมิวสิควิดิโอ และถือเป็นหนึ่งการเล่นกับความรู้สึกของผู้ใช้งาน (Emotion) ซึ่งเราจะเห็นได้กับหลายๆ โซเชียลมีเดียที่ดึงเอาจุดนี้มาใช้งานอย่างเช่นสติกเกอร์บน LINE?เป็นต้น
นับจากนี้เราน่าจะได้เห็นการใช้ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียถูกดัดแปลงในรูปแบบต่างๆ กันมากขึ้นนอกจากการดึงข้อมูลมาลงในแอพพลิเคชัน Facebook และอื่นๆ และเทคโนโลยีที่รองรับน่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีกมาก เราคงต้องติดตามกันต่อครับ
ที่มา: psfk,?Lost in The Echo