Site icon Thumbsup

Listerine Mouth Gym กับการผลักดันน้ำยาบ้วนปากเข้าสู่โลกออนไลน์

ต้องบอกว่าครั้งแรกที่ได้ยินว่า Listerine จะทำเกมออนไลน์ ผมก็ยังนึกอยู่ว่ามันออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง เพราะเมื่อนึกถึงเกมออนไลน์ผมก็จะนึกถึงภาพของเกมเต้นอย่าง Audition หรือเกมยิงอย่าง Point Blank หรือไม่ก็เกมแนว Farmville ที่คนติดกันทั้งบ้านทั้งเมืองไปเลย และแล้ว เมื่อ Mouth Gym ได้ออกมาให้ได้เล่น ผมก็พบว่าจริงๆ แล้วโลกออนไลน์ก็ยังเหลือที่ให้ผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากได้เข้าเล่นโลดแล่นด้วยเช่นกัน

เกม Mouth Gym ของ Listerine เป็นเกมบนสังคมออนไลน์ Facebook ที่ออกแบบมาให้เล่นได้ง่ายๆ โดยจุดประสงค์หลักก็คือการสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์ Listerine กับฐานลูกค้าบน Facebook ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบการออนไลน์และชอบการสังคมกับเพื่อนๆ โดยตัวเกมจะเปิดให้ผู้เล่นสามารถสร้างพื้นที่ที่เปรียบกับฟิตเนสของตัวเองได้ แต่ในฟิตเนสนี้ผู้เล่นมีหน้าที่ในการลงทุนวางอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันต่างๆ ที่เชื่อมกับโลกจริงๆ ได้แก่ ลู่วิ่งแปรงฟัน เครื่องสั่นไหมขัดฟัน และแท่นน้ำยาบ้วนปาก Listerine ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าซึ่งก็คือ ตัวละครที่มีหน้าเป็นเพื่อนๆ ของเราบน Facebook เข้ามาใช้บริการและเราจะได้รับเงินเป็นค่าบริการ และดาวเป็นการเพิ่มประสบการณ์ หรือ Exp เพื่อให้เราสามารถขยับไป Level ต่อไปได้ นอกจากนี้ LISTERINE ยังมองถึงการสร้างตัวตนของผู้เล่นโดยการใช้วีธีแบบ Personalize ที่จะช่วยให้ฟันของผู้เล่นแต่ละคนไม่เหมือนใคร โดยการเปลี่ยนหน้าผ่านระบบ Teeth Customization

จุดสำคัญของเกม Mouth Gym ก็คือกลไกของการแจกเงินในเกมเพื่อให้ผู้เล่นสามารถนำไปซื้อของเพิ่มเติมได้ และการแจกดาว หรือ Exp เพื่อให้ขยับไป Level ต่อไปได้ ซึ่งสองสิ่งนี้ถือเป็นกลไกพื้นฐานของการเล่นเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ที่ช่วยให้เกมมีแรงดึงดูดในการทำให้ผู้เล่นอยากเล่นต่อไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ตัวเกมก็เพิ่มเงื่อนไขที่ว่า ผู้เล่นต้องรักษาความสะอาดฟันของตัวเองด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นลูกค้าจะไม่สามารถเข้ามาใช้บริการในฟิตเนสของเรา

ด้วยการออกแบบเกมดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อผู้เล่นลงทุนวางอุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง 3 ชิ้นแล้ว ผู้เล่นจะเห็นขั้นตอนของการใช้บริการอย่างชัดเจน โดยตัวละครจะเริ่มจากการแปรงฟันก่อนทุกครั้ง จากนั้นจึงจะเป็นการขัดฟันแล้วตามด้วยการบ้วนปากด้วย Listerine ซึ่งค่าบริการใน 2 ขั้นตอนแรกจะคิดค่าบริการขั้นตอนละ 1 เหรียญทอง ในขณะที่ขั้นตอนการบ้วนปากจะคิดถึง 2 เหรียญทอง นั่นหมายถึงว่าขั้นตอนของการบ้วนปากด้วย Listerine มีความสำคัญมากและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

หากมองในแง่ของการรับรู้ของผู้บริโภคแล้ว การผนวก 3 ขั้นตอนของการทำความสะอาดฟันเข้าด้วยกันทำให้ผู้บริโภคเห็นภาพความจำเป็นของขั้นตอนการใช้น้ำยาบ้วนปากหลังการแปรงฟันชัดเจนขึ้น และแทนที่จะชินกับการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว หรืออาจจะใช้ไหมขัดฟันควบคู่ไปด้วย ผู้เล่นจะหันมาเห็นความสำคัญของการบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากมากขึ้นผ่านมูลค่าของเงินที่ได้รับในเกม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ Listerine ต้องการจะสื่อ นอกจากนั้น กฎที่บังคับให้ผู้เล่นต้องรักษาความสะอาดของตัวละครฟันของตัวเองด้วยนั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้เล่นตระหนักถึงความจริงที่ว่า หากสุขภาพช่องปากของตัวเองไม่ดี ก็จะทำให้มีโอกาสเกิดโรคในช่องปากตามมา ทำให้ผู้อื่นก็จะไม่อยากเข้าใกล้ด้วย

จากการทดลองเล่น Mouth Gym นั้นทำให้ผมประหลาดใจได้ไม่น้อย อย่างแรกคือ จากเกมที่ดูไม่น่าจะติดในความคิดแรก ผมกลับพบว่าผมใช้เวลาหมดไปกับการเล่นเยอะมาก และยังไม่อยากหยุดเพราะมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ นอกจากนั้น ยิ่งผมขยายฟิตเนส ผมก็ยิ่งมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีก ยิ่งทำให้ผมไม่อยากลุกไปจากหน้าจอทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะลองเล่นแค่ช่วงสั้นๆ อย่างที่สอง ทั้ง 3 ขั้นตอนของการทำความสะอาดฟันทำให้ผมเตือนตัวเองว่าแค่แปรงฟันและขัดฟันนั้นยังไม่เพียงพอ แม้ผมจะเป็นคนที่ใช้น้ำยาบ้วนปากอยู่แล้ว แต่เกมนี้ทำให้ผมรู้สึกกระตือรือล้นและมองว่าการจะทำความสะอาดฟันให้ครบ ต้องทำทั้ง 3 ขั้นตอนไม่สามารถขาดขั้นตอนใดไปได้ ไม่เช่นนั้นคุณค่าที่ผมจะได้รับก็จะไม่ครบถ้วน อย่างที่ 3 เกมนี้ยังมาพร้อมกับการแจกของรางวัลเป็น iPad 2 ซึ่งเรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งทำให้ผมอยากลับไปนั่งเล่นต่อเพราะนอกจากจะเพลินแล้วยังจะได้ลุ้น iPad ด้วย

ผมว่าการที่ดีที่สุดก็คือคุณผู้อ่านอย่าเพิ่งเชื่อผมทั้งหมด แต่น่าจะไปทดลองเองที่ Listerine Mouth Gym FB Apps แล้วถ้าใครไปถึง Level ไหนแล้วก็อย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ หรือถ้าใครโชคดีได้ iPad 2 ผมก็ขอถือโอกาสแสดงความยินดีด้วยล่วงหน้าเลยนะครับ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีด้วยครับ

บทความนี้เป็น Advertorial