Site icon Thumbsup

Live อย่างไรให้ยอดวิวพุ่ง

เครื่องมือและแพลตฟอร์มออนไลน์มากมาย เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งาน Live เรื่องราวในชีวิตกันมากขึ้นใช่ไหมคะ เครื่องมือนี้ก็สามารถนำมาใช้ในการขายสินค้าและโปรโมทสินค้าได้เช่นกัน แต่จะทำอย่างไร ลองดูคำแนะนำของ หาวต่อวงศ์ ซาลวาลาช่างภาพระดับท็อปคลาสของเมืองไทย ที่ได้แนะนำ 5 เทคนิคง่ายๆ สำหรับการไลฟ์ให้มีคนติดตามชมกันค่ะ

1.กล้อง การใช้กล้องดิจิทัลให้การไลฟ์ย่อมทำให้ได้คุณภาพที่ดีกว่า ให้เลือกซื้อกล้องที่มีโหมด Clean HDMI ที่สามารถลบไอคอนเมนูตัวหนังสือต่างๆ ที่ปรากฏบนจอหลังกล้องให้เหลือเพียงแค่ภาพที่ต้องการถ่ายทอดได้

ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้ภาพออกมาดูคมชัด คือ การตั้งค่าขนาดของไฟล์ โดยเลือกคุณภาพไฟล์ที่ขนาด 720 HD ก็พอ ไม่ต้องตั้งสูงถึง 4K เพราะจะทำให้ภาพกระตุก เนื่องจากประเทศไทยสัญญาณอินเตอร์เน็ตยังไม่รองรับการไลฟ์ด้วยภาพระดับ 4K เท่าไรนัก เลือกใช้โหมดแบบ Manual โดยตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/50 สุดท้ายคือการตั้งค่า White Balance ควรตั้งแบบ Kelvin เลือกสีโทนของภาพตามใจชอบ ห้ามตั้งแบบ Auto เพราะจะทำให้กล้องจับสีภาพออกมาเพี้ยน 

การตั้งกล้องเพื่อ Live ควรตั้งมุมฉากขนาดกับพื้น ไม่ควรใช้มุมก้มหรือเงย เพราะจะทำให้ภาพออกมาไม่สวย สังเกตง่ายๆ คือ เส้นฉากหลัง อาทิ รูปภาพ เสา ต้องเป็นเส้นตรง และสำหรับเหล่า Blogger สายเชฟที่ชอบ Live การทำขนมหรืออาหาร จำเป็นอย่างยิ่งต้องใช้กล้องดิจิทัล 2 ตัว โดยกล้องตัวแรกใช้จับภาพใบหน้าของผู้ไลฟ์ พูดคุยให้ข้อมูลต่างๆ ส่วนกล้องตัวที่สองจับภาพมือขณะปรุงอาหาร เพราะหากใช้กล้องตัวเดียวถ่ายภาพสลับไปมาจะทำให้ผู้ชมเวียนหัวได้ 

2. สถานที่ไม่ควรเปลี่ยนไปมา เพราะจะทำให้ยากต่อการควบคุมเสียงรบกวน  การจัดแสง และการตกแต่ง ส่วนขนาดพื้นที่นั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการไลฟ์ อาทิ Liveในลักษะพูดคุย หรือเพื่อรีวิวสิ่งของ อาจจะใช้สถานที่ไม่ใหญ่มาก เป็นบริเวณริมหน้าต่างของห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานเพื่อให้ได้แสงจากธรรมชาติเข้ามาช่วย

แต่หากเป็นการไลฟ์เพื่อสอนเต้นหรือออกกำลังกาย จำเป็นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่และใช้ไฟจำนวนมาก เพื่อให้เห็นรายละเอียดของท่าเต้นได้ง่าย เทคนิคคือ เลือกห้องที่มีบานประตูหรือหน้าต่างขนาดใหญ่ เวลาเต้นให้หันหน้าออกมาทางประตูหรือหน้าต่าง เพื่อรับแสงจากธรรมชาติลดการใช้ไฟฟ้า

3. เสียงจัดเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับการไลฟ์ โดยจะแบ่งเสียงออกเป็น 2 แบบ คือ เสียงรบกวน เช่น เสียงรถ เสียงแอร์ เสียงพัดลม ซึ่งเป็นเสียงที่ต้องหาวิธีกำจัดออกไปก่อนการไลฟ์ โดยอาจจะเริ่มจากการเลือกห้องไลฟ์ที่ไม่ติดถนน การปรับลมแอร์ให้เบาลง เป็นต้น

ต่อมาคือ เสียงพูด เพื่อให้เกิดเสียงที่คมชัดในการสื่อสาร จึงต้องใช้ microphone เข้ามาเป็นตัวช่วย โดยเฉพาะการไลฟ์โชว์การร้องเพลง เล่นดนตรี ซึ่งปัจจุบัน microphone มีให้เลือกหลายแบบขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่แนะนำให้เลือกเป็นไมโครโฟนประเภท USB Microphone เพราะจะใช้งานง่าย ให้เสียงดี และลดเสียงรบกวนรอบข้าง

4. ส่วนนักไลฟ์ที่สอนเรื่องการแต่งหน้าหรือคนที่ชอบ Live ตอนกลางคืนแสงไฟ คือผู้ช่วยชั้นเยี่ยม นอกเหนือจากแสงธรรมชาติ เพราะจะทำให้ภาพออกมาคมชัดเห็นรายละเอียด สีสัน ที่ชัดเจน  ซึ่งแสงไฟที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่ คือ แสงหลักสำหรับช่วยเพิ่มความสว่าง อาจใช้เป็น LED Board ที่สามารถปรับเพิ่มลดความเข้มของแสงได้ และแสงรองสำหรับช่วยลดเงาสะท้อนอาจใช้เป็นพื้นหลังที่เป็นสีขาว อย่างผ้าม่านหรือกำแพงทาสีขาว เข้ามารับการสะท้อนจากแสงหลัก แทนแสงไฟก็ได้เช่นกัน

สุดท้าย 5. ตัวเรา” Live จะปังหรือแป้ก ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญ เคล็ดลับการเตรียมตัวแบบง่ายๆ คือ ต้องเตรียมเนื้อหาให้ดี เลือกนำเสนอจากสิ่งที่รัก สนใจ ถนัด และมีประโยชน์ต่อผู้ชม เพื่อให้สามารถเล่าเป็นเรื่องราวได้

ส่วนการพูดต้องมีความต่อเนื่อง พูดได้เรื่อยๆ ไม่ให้มีภาวะเงียบ (Dead Air) และต้องมีการพูดโต้ตอบกับผู้ชมเสมอ และความถี่ของการไลฟ์ ถ้าเริ่มต้นควรไลฟ์ทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ  1-2 ครั้ง เพื่อเป็นการฝึกฝนตนเอง

ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันนะคะ เชื่อว่าจะช่วยให้เพจหรือบล็อกของคุณมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากกิจกรรม Workshop ของทาง www.bigcamera.co.th ด้วยนะคะ