ในปี 2017 ที่ผ่านมานี้ถือเป็นก้าวใหญ่ของวงการโลจิสติกส์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งมีเทคโนโลยีมากมายถูกนำมาปรับใช้เพื่อการให้บริการการขนส่งสินค้าในฝั่งของ Business-to- Business และ End User หรือลูกค้า Business-to- Customers ให้มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างคุณค่าให้แก่พวกเขาได้มากยิ่งขึ้น แล้วในปี 2018 นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงใดที่น่าสนใจบ้างในวงการโลจิสติกส์? เราพบว่ามีสามประเด็นน่าสนใจ ได้แก่
IoT (internet of things) และ BigData
ทั้ง IoT และ BigData จะยังถูกนำมาใช้ในวงการโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะข้อมูลต่างๆ ที่ระบบจัดเก็บ สามารถนำมาช่วยในส่วนของการจัดการต่างๆ เช่น บริการเส้นทางเดินรถ ติดต่อสอบถามข้อมูลการคลัง วิเคราะห์ข้อมูลล่วงหน้า และเข้าในความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดระยะเวลาการดำเนินการและเพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งสินค้าได้อย่างมาก รวมถึงเทคโนโลยี AI และ Machine learning ที่จะช่วยส่งเสริม IoT ให้ดีมากยิ่งขึ้น
E-Brokerage Platform
เป็นพื้นที่สำหรับค้นหาการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเมื่อก่อนการค้นหาผู้ให้บริการนี้ต้องผ่านนายหน้าขนส่งสินค้ารูปแบบเก่าๆ แต่ตอนนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งรูปแบบการให้บริการก็คล้ายกับบริการของ Uber คือเป็นแอปพลิเคชั่นในการจัดการคนขับ รถขนส่ง ระยะทาง ตารางขนส่งผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้การบริหารการจัดการให้การขนส่งแบบวางแผนลดการวิ่งรถขาเดียว โดยการทำ Headhaul และ Backhaul ในการ match เส้นทางที่ปัจจุบันต้องมีการวิ่งรถเปล่ากับ supplier ที่ต้องการการบริการขนส่งในเส้นทางนั้นๆ เพื่อเป็นการลดต้นทุนของการขนส่ง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต่ำลง เป็นประโยชน์แก่ทั้งผู้ผลิตสินค้า และผู้บริโภค ที่จะได้รับสินค้าในราคาที่ต่ำลง
Blockchain support Transparency
ไม่เพียงแต่ลูกค้าสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการให้บริการความปลอดภัยของสินค้า แต่รวมถึงการมองหาราคาที่สามารถตรวจสอบได้ทันทีของค่าบริการการขนส่ง และเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งจะช่วยจัดการกับปัญหาต่างๆ เช่น การจัดส่งสินค้าไม่ตรงเวลา การเจรจาต่อรอง การกำหนดเงื่อนไขและรูปแบบการทำงาน ซึ่งทำให้ตัดสินใจในการว่าจ้างการบริการได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถลดระยะเวลาของกระบวนการการขนส่งได้
ในวงการสตาร์ทอัพเองก็เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวงการโลจิสติกส์ และพยายามแก้ไขจุดบกพร่องแก่ลูกค้าธุรกิจนี้อย่างมากอย่าง Giztix โลจิสติกสตาร์ทอัพชั้นแนวหน้าของเมืองไทยที่เพิ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก AddVentures by SCG จนกลายเป็น Series A สตาร์ทอัป โดยผสมผสานเทคโนโลยี marketplace เพื่อให้ความสะดวกรวดเร็วต่อการติดต่อคู่ค้าและลูกค้ามากยิ่งขึ้น ที่ทำให้ทั้งผู้ซื้อ (Buyer,business) ที่ต้องการบริการการขนส่ง สามารถเช็คราคารถขนส่งและเฟรทได้ทันทีทาง Online จองง่าย จ่ายปลอดภัย ไม่ต้องรอ และผู้ขาย (Carrier/forwarder/LSP) สามารถมาโพสต์เสนอซื้อเสนอขายกันได้ มีระบบ Match หาคู่ให้กับผู้ซื้อ-ผู้ขาย มีระบบ Chat เพื่อให้สามารถเจรจาต่อรอง ส่งใบเสนอราคากันได้ทันที ซึ่งทั้งหมดสามารถทำผ่าน Marketplace หรือจะติดต่อคุยกันโดยตรงระหว่างเจ้าของสินค้า และผู้ให้บริการขนส่งก็ได้
บทความนี้เป็น Advertorial