ศึกษาวิธีตอบข้อข้องใจจาก “เมจิกสกิน” ที่ทำให้คนเชื่อ (อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง)

หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมคนไทยเชื่อจริงจังกับ “เมจิกสกิน” เครือข่ายครีมผิวขาวที่ตำรวจไทยกำลังถอนรากถอนโคนสินค้าทั้งหมดที่มีอยู่หลายร้อยรายการในตลาด คำตอบอาจไม่ใช่เรื่องการใช้พรีเซนเตอร์หรือ influrencer อย่างเดียว แต่เกี่ยวกับ 3 วิธีการและมุมมองรับมือกับคำถามข้อสงสัยนี้ ที่ทำให้คนถามนั้นเงียบได้เลยอย่างน้อยก็ในระยะหนึ่ง

ข่าวเมจิกสกินคือกรณีที่นางวรรณภา พวงสนเข้ามอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังมีการแจ้งข้อหาว่าผลิตภัณฑ์ 229 รายการ ของเธอที่ถูก อย. ถอนเลขจดแจ้งออกจาก อย. นั้นถือเป็นของเถื่อน ดังนั้นผู้ใดฝ่าฝืนจำหน่ายถือว่ามีความผิด เพราะเป็นสินค้าเถื่อนผิดกฎหมายไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากทั้งหมดไม่มีแหล่งผลิตและไม่มีโรงงานตามที่อวดอ้าง ซึ่งถือว่ามีความผิดชัดเจน

จากการตรวจสอบความเห็นบนโซเชียล พบว่ามีลูกข่ายผู้จำหน่ายสินค้าเมจิกสกินบอกเล่าถึงช่วงที่จำหน่ายสบู่ผิวขาว ว่ามีปัญหาสบู่ก้อนเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน เมื่อถามไปที่ตัวแทนเมจิกสกิน ตัวแทนของบริษัทระบุว่าเนื่องจากเป็นสินค้าทำมือ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น

การยอมรับว่าสบู่ก้อนใหญ่เล็กไม่เท่ากันจริงเพราะเป็นสินค้าทำมือนั้นถือว่าชาญฉลาด แสดงความจริงใจกับลูกค้าโดยที่ยังยึดจุดยืนไม่ได้ทำอะไรผิด เนื่องจากข้อจำกัดนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าแฟนคลับสินค้าทำมือนั้นยอมรับได้ แต่จุดนี้ถือเป็นดาบ 2 คม เพราะคนที่ต้องการสบู่มาตรฐานจากโรงงานนั้นรับไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีกรณีผู้ขายอีกราย ระบุว่าเคยเป็นตัวแทนขายสินค้าเมื่อ 2 ปีก่อน ช่วงเวลานั้นมีคำถามจากตัวแทนรายอื่น ถามต้นสังกัดเมจิกสกินว่าสินค้าดี ขายเร็ว ทำไมจึงไม่วางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 บ้าง

คำตอบที่ได้รับคือ ถ้าลงขาย 7-11 เงินจะเข้าบริษัท ดังนั้นจึงอยากให้ตัวแทนขาย เพื่อเป็นรายได้ครอบครัว

แม้จะถูกวิจารณ์ภายหลัง แต่คำตอบนี้ก็ทำให้ภาพเมจิกสกินดูดี หลายคนศรัทธาในแบรนด์เพราะภาพลักษณ์ตอบแทนสังคม

กรณีสุดท้ายคือลักษณะการตอบของนางวรรณภา พวงสนเอง “คุณแม่” ของเหล่าลูกข่ายพยายามแสดงจุดยืนว่าไม่ผิด ไม่หนี และไม่มีใครทำอะไรเธอได้ ทำให้ลูกข่ายยังเชื่อมั่นและขายสินค้าของเธอต่อในช่วงปลายมีนาคมที่ผ่านมา จุดนี้หากไม่นับรวมเงินทุนที่จมไปกับสินค้าแล้ว ก็อาจเป็นเพราะท่าทีชัดเจนของต้นสังกัดที่ทำให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์ยังอยู่ต่อไป

สิ่งที่เราสามารถสรุปได้จาก 3 กรณีนี้ คือไม่ว่าการตอบ การแสดงออก หรือการพูดจะชาญฉลาดเท่าใด แต่ถ้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน กลยุทธ์การรับมือก็ไม่ให้ผลที่ยั่งยืนอยู่ดี.