หนึ่งในประเทศที่มี Social Network เฉพาะทางเยอะแยะมากมายสามารถนำมาแนะนำได้ไม่หยุดไม่หย่อน ในนั้นต้องมีประเทศจีนอย่างแน่นอน คราวนี้เป็นโลกออนไลน์สำหรับเหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวของลูกน้อยตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์จนกระทั่งเติบโตออกมาวิ่งเล่นได้
Mamashai ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Tracy Ji (หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง HiPiHi ซึ่งเป็น Social Network ที่เคยหวังสร้างชีวิตจำลองขึ้นมาเหมือน SecondLife) ปัจจุบัน Mamashai มีสมาชิกกว่า 1แสนรายแล้ว และกว่าครึ่งมีอายุระหว่าง 25-34 ปี และต่ำกว่า 7% มีอายุสูงกว่า 35 ปี เธอให้ความคิดเห็นว่าผู้ที่เกิดหลังปี 1980 ย่อมมีแนวโน้มที่ใช้อินเตอร์เน็ตสูงและพวกเค้าก็ชื่นชอบ Social Network อาทิเช่น Weibo ดังนั้นเมื่อกลายมาเป็นพ่อแม่คน ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะใช้ Social Network ในการบันทึกความทรงจำของลูกน้อยในแต่ละวันเอาไว้ และมันจะมีความสุขขนาดไหนในวันที่พวกเค้าเติบโตขึ้นแล้วย้อนกลับมาดูสิ่งที่พ่อแม่บันทึกเอาไว้ (เอ๊ะ พูดไปๆ ชัก ^^” คล้ายๆ โฆษณา Youtube ของ Google อันล่าสุดชอบกล)
ในแง่การหารายได้นั้น Tracy กล่าวว่ามีการจับมือร่วมกับสื่อสิ่งพิมพ์ (และขอเป็นนายทุนในตัว) สร้างธุรกิจแปลงคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ใน Mamashai ให้มาสู่โลกออฟไลน์ตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ โดยมีครูสอนศิลปะที่มีลูกน้อยวัย 2 ขวบจะกลายมาเป็นผู้แต่งหนังสือรายแรกและแบ่งรายได้กันกับ Mamashai
นอกจากนี้แล้วยังมีการหารายได้ผ่านช่องทางอื่นๆ อีกเช่น มีการเก็บค่าบริการในบางตัว และมีรายได้ที่มาจากฟาก eCommerce โดย Tracy กล่าวว่าสมาชิกใน Mamashai จะสามารถดูได้ว่าเพื่อนสมาชิกคนอื่นที่มี background คล้ายๆ กันนั้นซื้อสินค้าอะไร และรายได้ของ Mamashai ส่วนหนึ่งจะมาจากคู่ค้าอย่าง Taobao
ปัจจุบัน Mamashai มีพนักงานทั้งสิ้น 20 คนและคาดหวังว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายในปีหน้า แน่นอนว่า Mamashai ดูไม่น่าจะเป็นเว็บฯ แรกๆ ที่จับตลาดกลุ่มนี้อยู่แล้วเพราะก่อนหน้านี้ก็มี BabyTree และ Yaolan ด้วย ซึ่ง Yaolan มีสมาชิกสูงถึง 3 ล้านรายเลยทีเดียว
การเติบโตของ Niche Social Network ในจีนที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดดูช่างน่าสนใจมาก จุดวัดความสำเร็จของธุรกิจเหล่านี้ย่อมไม่ใช่เพียงแค่การสร้างบริการที่โดนใจในจุดหนึ่งเพื่อดึงคนมาเยอะๆ เท่านั้น รูปแบบธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำประกอบกับการคิดค้นบริการใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งจึงจะเป็นตัวชี้วัดในระยะยาวได้
ที่มา Technode