ตามปกติแล้ว ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี มักจะเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยเทศกาลงานฉลอง และบรรยากาศของการพักผ่อนท่องเที่ยว แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า ในการเดินทางที่เราเรียกว่าการพักผ่อนนั้น แท้จริงแล้ว เราอาจแค่ต้องการหาร้านอาหาร หรือโรงแรมที่มีไวไฟ แล้วก็ใช้สมาร์ทโฟนนั่งทำงาน ตอบอีเมลกับเพื่อนๆ ในออฟฟิศเหมือนวันทำงานปกติทั่วไปก็เป็นได้
พฤติกรรมข้างต้นสอดคล้องกับผลสำรวจของ Global Travel Tracker โดย Mariott Reward ที่พบว่า ปัจจุบัน 53 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนนั้น ยังคงติดอยู่กับโลกแห่งการทำงาน ขอเพียงที่พักมีไวไฟ และสมาร์ทโฟน นักท่องเที่ยวก็พร้อมจะกลับไปนั่งเครียดกับเรื่องงานได้ทุกเมื่อ โดยมีเพียง 47 เปอร์เซ็นต์ที่ยอมรับว่า ตนเองสามารถตัดเรื่องงานออกไปได้อย่างเด็ดขาด
จากพฤติกรรมดังกล่าวยังพบด้วยว่า อีเมลคือเครื่องมือที่พวกเขาต้องเสียเวลาด้วยมากที่สุดเมื่อต้องทำงานในช่วงเวลาของการลาพักร้อน
ตัวเลขจาก Global Travel Tracker ยังพบว่า นักท่องเที่ยวจากกรุงโตเกียวเป็นกลุ่มที่มีความเครียดสูงสุดเมื่ออยู่ระหว่างการลาพักร้อน (35%) ขณะที่นักท่องเที่ยวจากกรุงเม็กซิโกซิตี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีความเครียดน้อยที่สุด (4%)
หากเปรียบเทียบกันในเรื่องเพศแล้วพบว่า ผู้หญิงสามารถตัดเรื่องงานออกจากการลาพักร้อนได้ดีกว่าผู้ชาย (34 เปอร์เซ็นต์ต่อ 23 เปอร์เซ็นต์)
ทั้งนี้การสำรวจดังกล่าวเป็นการเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามกว่า 6,600 คนจาก 14 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ ชิคาโก ลอสแองเจลลิส ไมอามี นิวยอร์ก วอชิงตัน ดี.ซี โตรอนโต ลอนดอน เม็กซิโกซิตี้ มุมไบ ปารีส ดูไบ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ และมิวนิค
อย่างไรก็ดี เมืองใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง ชิกาโก ลอสแองเจลลิส และนิวยอร์กก็ติด 3 ใน 5 อันดับแรกของเมืองที่นักท่องเที่ยวพกความเครียดสูง และการทำงานตลอดเวลามาด้วยเช่นกัน
ในมุมของโรงแรมที่พักแล้ว ผลสำรวจในลักษณะนี้น่าลำบากใจไม่น้อย เพราะหากไม่มีไวไฟให้บริการ
อ่านข่าวนี้ไปแล้วก็น่าคิดนะว่า ที่จริงเราจะปล่อยวางข้อมูลข่าวสารด้านการงานได้มากน้อยเพียงไรหากต้องพักร้อน
ที่มา: MarketingDaily