กลยุทธ์ใช้เงินฮุบกิจการ หรือถ้าสู้ไม่ได้ก็สร้างอีกบริษัทเป็นคู่แข่งไปซะเลย คือสิ่งที่ Microsoft ภายใต้การดูแลของ Bill Gates ใช้เอาชนะคู่แข่งในตลาด และตอนนี้ Facebook ก็ใช้กลยุทธ์ไม่ต่างกัน
สังเกตได้ง่ายๆ จากฟีเจอร์ล่าสุด Instagram Stories ที่มีลักษณะเหมือน Stories ของ Snapchat ทั้งรูปแบบ (และชื่อ) ราวกับลอกมา ซึ่งกลยุทธ์แบบนี้เคยเป็นเอกลักษณ์ในยุคของ Bill Gates และดูเหมือนว่าพี่มาร์กของเรากำลังเจริญรอยตามมาแบบติดๆ
อย่างที่ Mark Zuckerberg เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณไม่สามารถเอาชนะ หรือร่วมทุนกับพวกเขาได้ ให้ทำลายพวกเขาแทน”
Zuckerberg มีความอิจฉา Snapchat มาตั้งแต่ปี 2013 ขณะที่ Snapchat ยังเป็นหน้าใหม่ Facebook ก็พยายามซื้อบริษัทดังกล่าวด้วยเงินสด 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 105 พันล้านบาท) ในเมื่อซื้อไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน Facebook ก็ปล่อย Poke ซึ่งเหมือน Snapchat แบบไร้ที่ติ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับความนิยม
หลังจากนั้นในปี 2014 Facebook ก็ปล่อยตัว Slingshot ซึ่งรอบนี้ Zuckerberg คงตั้งใจจะสื่อให้ Snapchat รู้แล้วว่า ไม่มีสิ่งไหนที่ Snapchat ทำแล้ว Facebook ทำไม่ได้ แถมยังทำได้เร็วกว่าด้วย
แม้ในปี 2015 ดูเหมือนสงครามระหว่าง Facebook กับ Snapchat จะไม่รุนแรงเท่าแต่ก่อน แต่ Snapchat เองก็มีการเติบโตขึ้นอย่างเงียบๆ ทั้งในแง่ผู้ใช้และรายได้จากค่าโฆษณา จึงถึงเวลาแล้วที่ Zuckerberg จะกลับมาคิดเรื่องการเอาคืนอย่างจริงจังมากขึ้น และน่าจะเป็นที่มาของการเปิดตัว Instagram Stories
ความได้เปรียบทางด้านแพลตฟอร์ม
ในยุคของ Bill Gates เห็นได้ชัดว่า Microsoft มี Windows และ Office เป็นข้อได้เปรียบ เพราะทุกเครื่องต้องลงสองสิ่งนี้ ดังนั้นจึงง่ายที่ Microsoft จะเพิ่มสินค้าตัวอื่นๆ เข้าไปให้ผู้คนใช้ ในขณะที่คู่แข่งไม่มีอะไรเป็นทุนเดิม
ทางด้าน Facebook ก็มีแพลตฟอร์ม Facebook ที่เป็นข้อได้เปรียบ เมื่อทำ Instagram ให้สามารถลงรูปข้ามแพลตฟอร์มได้ง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ Instagram มีจำนวน active user มากถึง 500 ล้านคนต่อเดือน
Mark Zuckerberg คือ Bill Gates คนต่อไป
ทุกวันนี้แม้ Microsoft จะเริ่มเป็นมิตรกับคู่แข่งมากขึ้น เพราะไม่ได้มี Bill Gates คอยสั่งการเหมือนเมื่อก่อน แต่ Facebook ที่เข้ามากุมอำนาจแทน อาจทำให้ Startup หรือบริษัททางด้านเทคโนโลยีเจ้าอื่นๆ ต้องคอยสงบเสงี่ยมเจียมตัวหากไม่อยากถูกซื้อหรือถูกทำลาย
ทั้งนี้การที่ Mark Zuckerberg เป็นอย่าง Bill Gates ก็คงไม่ได้แย่ไปซะหมด เพราะอย่างที่เราเห็นว่าทั้งคู่บริจาคเงินให้กับการกุศลเป็นจำนวนมาก
ที่มา : Business Insider