บทความตอนที่แล้ว เราเสนอ 5 ใน 10 แนวโน้มการลงทุน MarTech ในปี 2018 ที่เน้นไปที่เรื่องการปรับแต่งเว็บไซต์-แอปพลิเคชัน-ช่องทางโซเชียลให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลายและอัจฉริยะกว่าเดิม สำหรับบทความตอนจบ เราพบว่าอีก 5 แนวโน้มที่เหลือก็เป็นทางเลือกที่สำคัญไม่แพ้กัน
6 Automated Content Sourcing and Syndication
มีความเป็นไปได้ว่าแบรนด์ชั้นนำจะลงทุนระบบจัดหาและเผยแพร่เนื้อหาอัตโนมัติมากขึ้นในปี 2018 เนื่องจากเว็บไซต์ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาและทีมการตลาดอยู่เบื้องหลัง การลงทุนนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของทีมการตลาด ให้สามารถผลิตเนื้อหาที่มีความหมายในเวลาที่เหมาะสมได้ดีขึ้น
การจัดหาเนื้อหา การสนับสนุนพนักงาน และซอฟต์แวร์บริหารเครือข่ายสังคม จะเป็นส่วนผสมหลักที่ทำให้นักการตลาดมีเครื่องมือขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเนื้อหา เครื่องมือที่จัดเรียงข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียวในระบบคลาวด์ผ่านพนักงานและช่องทางการตลาดหลายแห่ง ถือเป็นเครื่องมือที่ธุรกิจจำเป็นต้องมีในปี 2018
7 Conversational Web
เทคโนโลยีระบบสนทนานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคทองที่ Alexa หรือ Google Home กำลังเริ่มมีบทบาทกับธุรกิจ โดยขณะนี้ การค้นหาด้วยเสียงคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการค้นหาทั้งหมด และจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2018 ซึ่งเป็นปีที่อุปกรณ์ IoT จะขยายตัวแพร่หลายกว่าเดิม
8 Mobile and Proximity Search and Marketing
ในปี 2018 การตลาดแบบอิงสถานที่และพื้นที่ใกล้เคียงจะไม่จำกัดอยู่ที่ B2C เท่านั้น แต่นักการตลาดทุกคนจะสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์บริการและข้อความเฉพาะเจาะจงซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้และสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา ทั้งหมดนี้ทำให้การลงทุนในเทคโนโลยีด้านการค้นหาบนโมบาย เป็นอีกเทรนด์แรงที่หลายคนจะเน้นหนักมากขึ้น
ไม่เพียงเทคโนโลยี การลงทุนเพื่อแปลเนื้อหาเป็นภาษาท้องถิ่นจะยังคงเป็นสิ่งสำคัญในปี 2018 แม้กระทั่งในเว็บไซต์รูปแบบดั้งเดิม
9 Video Marketing
การตลาดด้วยวิดีโอคือหนึ่งในพื้นที่ที่มีการลงทุนร้อนแรงแน่นอนในปี 2018 เพราะเนื้อหาวิดีโอและการค้นหาวิดีโอนั้นแซงหน้าการค้นหาแบบเดิมทั้งหมดในช่วง 2 ปีนี้
แพลตฟอร์มวิดีโอและการตลาดผ่านวิดีโอหลายช่องทางเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดในปัจจุบัน เนื่องจากลูกค้าต้องการประสบการณ์แบบโต้ตอบได้และมีอารมณ์ร่วม ทำให้การตลาดที่มีวิดีโอเป็นเครื่องมือจะยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีต่อไป
10 Big Data
ทุกคนรู้ดีว่าข้อมูลมหาศาลกำลังจะเกิดขึ้นในปี 2018 เช่นเดียวกับปี 2017 ที่ผ่านมา การลงทุนเพื่อจัดการข้อมูลมหาศาลหรือ Big Data จึงมีการเติบโตก้าวกระโดด เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจมีคลังข้อมูลที่ล้าสมัย
นักการตลาดที่มีวิสัยทัศน์ทั่วโลกจึงพร้อมใจลงทุนในระบบจัดการข้อมูลลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเครื่องมือระบบข้อมูลอัจฉริยะที่ใช้ระบบ AI และระบบประมวลผลจำลองการวิเคราะห์ของข้อมูลที่มี ซึ่งระบบนี้จะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ดีและยั่งยืน
แม้ทั้งหมดนี้จะเป็น MarTech ที่ร้อนแรง แต่ทุกแบรนด์ควรวางแผนค่าใช้จ่ายโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ทางธุรกิจให้มาก ซึ่งจะทำให้การลงทุนเป็นไปอย่างชาญฉลาดที่สุด
ที่มา: ChiefExecutive