หากได้ติดตามกันมาตลอด เรามักจะได้เห็นการพยากรณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับแนวโน้่มความเปลี่ยนแปลงของโลก ที่หลายๆ สำนักหรือบริษัทวิจัยต่างๆ พากันจับตามอง โดยส่วนใหญ่มักมุ่งเป้าไปที่ปี 2015 หรืออีกแค่ไม่ถึง 4 ปีนี้
ไม่ว่าจะเป็นในด้านของเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น แม้กระทั่งแนวโน้มของรูปแบบการทำตลาด ก็มีการโยงไปถึงการนำเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน ให้การตลาดแนวใหม่เกิดขึ้นเช่นกัน เราลองไปดูว่าในอีกแค่ไม่กี่ปี การตลาดในรูปแบบไหนจะได้รับความนิยม แล้วเทคโนโลยีจะเข้ามาผลักดันเรื่องการตลาดได้อย่างไรกันแน่…
อย่างแรก เลยที่น่าจะมาแน่ๆ คือการเกิดขึ้นของปริมาณการใช้งานข้อมูล หรือถ้าจะพูดว่าการใ้ช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากมาย ผู้ึคนจะเข้าถึงโลกออนไลน์ได้มากขึ้น และแน่นอนว่าสื่อประเภทสังคมออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเช่นกัน รูปแบบการให้บริการลูกค้า (Customer Service) จะเปลี่ยนไป แต่จะมีผลรุนแรงเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นการร้องเรียนในบริการ จะส่งผลเสียต่อผู้ให้บริการมากขึ้นกว่าเดิม และเมื่อเกิดข้อมูลจำนวนมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกนำไปประมวลผล เพื่อเป็นไปในลักษณะการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค
ซึ่งนั่นส่งผลให้แนวโน้มที่ผมจะพูดถึงต่อไป เป็นเรื่องของการวิ่งเข้าหากลุ่มเป้าหมายของผู้จัดจำหน่ายหรือแบรนด์สินค้า รูปแบบของ AI หรือ Artificial Intelligence เข้ามามีบทบาทมา ด้วยข้อมูลจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ถูกนำมาประมวลผลและนำมาทำการตลาดเชิงรุก
เมื่อลูกค้าต้องการซื้อของอะไรซักอย่างหนึ่ง และค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ พวกเขาจะพบกับข้อมูลมหาศาลที่ป้อนมาให้ถึงที่ และที่สำคัญข้อมูลเหล่านั้น จะวิเคราะห์ราคาขาย หรือเปรียบเทียบราคาได้ หรือนำข้อมูลพฤติกรรมของพวกเขาเหล่านั้นมาประมวลผล และเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับพวกเขาเหล่านั้นมาให้อัตโนมัติได้เลยทันที
และแน่นอนว่า…คงหนีไม่พ้นการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาแน่ๆ การซื้อขายของในโลกอนาคตจะถูกกระทำการผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีรูปแบบการชำระเงินในรูปแบบที่เล็กลง และพกพาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ต่อไปหน้าร้านของจริงอาจจะไม่เป็นที่นิยม เท่ากับหน้าร้านบนโลกออนไลน์ก็เป็นไปได้นะครับ
เรื่องถัดมา เป็นเรื่องของการวัดมูลค่าของแบรนด์ที่น่าจะเปลี่ยนไป เพื่อให้การตีมูลค่าความน่าเชื่อถือของแบรนด์มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เราอาจะเห็นได้ว่าปัจจุบันการวัดมูลค่าเหล่านี้ ยังมีมิติที่ไม่ลึกมากพอ บางครั้งอาจจะใช้แค่ตัวเลขบางอย่างในการตีความและเลือกให้แบรนด์นั้นมีความน่าเชื่อถือ
เรื่องกลยุทธ์ในการดำเนินการ รูปแบบการทำการตลาด แม้กระทั่งคุณภาพหรือรูปลักษณ์ของตัวสินค้าจากแบรนด์ ก็มีความสำคัญมาก แถมตัวเลขที่สำคัญอย่าง ROI (Return of Investment) ก็จะถูกนำมาใช้ให้เห็นในโลกของสื่อประเภทสังคมออนไลน์ ในอนาคตอันใกล้นี้
ส่วนเรื่องที่จะทิ้งท้ายไว้ในวันนี้ ก็จะพูดต่อเนื่องในเรื่องของแบรนด์หรือตราสินค้า เมื่อการเข้าถึงโลกไซเบอร์แผ่ขยายเป็นวงกว้าง ต่อไปการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ จะหลากหลาย และสามารถมองเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งนั่นจะทำให้ผู้ที่ทำหน้าที่จัดการแบรนด์สินค้า จะสามารถสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น เมื่อมีช่องทางเพิ่มขึ้น
การตลาดในโลกอนาคตยังอาจจะมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นได้อีกมากมาย ไม่เพียงแต่ไอเดียที่ผมนำมาเสนอให้เพื่อนๆ thumbsup’er ได้อ่านกัน ใครมีแนวคิดเจ๋งๆ ก็ลองนำเสนอกันดู เผื่อไม่แน่ว่าไอเดียที่จะเกิดในยุคใหม่ อาจจะเป็นฝีมือคุณคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้นะครับ…