ตอนนี้อาจถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่แบรนด์ส่วนมากพยายามทำบางสิ่งบางอย่าง กับแพลตฟอร์มของตัวเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อยกระดับบริการและประสบการณ์เข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่ง McDonald’s เองก็เป็นหนึ่งในแบรนด์เหล่านั้น กับการพยายามผลักดันให้เกิดการออเดอร์อาหารและชำระเงินผ่านอุปกรณ์โมบายล์มาตั้งแต่ 2 – 3 ปีก่อน โดยภายในสิ้นปี คาดการณ์ว่าจะสามารถให้บริการได้ครอบคลุม 14,000 สาขาในสหรัฐอเมริกา รวมถึงอีก 10,000 สาขาในอีก 20 ประเทศทั่วโลก
การปรับโฉมรูปแบบการออเดอร์และชำระเงินสู่อุปกรณ์โมบายล์นั้น นัยว่าทำเพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง McDonald’s ก็ไม่ได้ทำอย่างโดดเดี่ยว เพราะยังมีแบรนด์ข้างเคียงอย่าง Starbucks และ Chipotle ที่มีแนวคิดไม่ต่างกัน
แต่ความน่าสนใจของ McDonald’s คือสิ่งที่บริษัทบอกว่าจะเกิดขึ้นตามมาในปี 2018 โดยซีอีโออย่าง Steve Easterbrook บอกว่า McDonald’s มีแผนจะกระตุ้นยอดสั่งซื้อและทราฟฟิกของผู้เข้าร้านด้วย “Digital Offers” ซึ่งตอนนี้เราคงต้องมารอดูกันว่า Digital Offers ของ McDonald’s ที่ว่านี้จะสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากแค่ไหน
โดยที่ผ่านมา McDonald’s ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น การเปิดให้มีบริการส่งอาหารผ่าน UberEats หรือการสร้างตู้คิออสสำหรับสั่งอาหารด้วยตัวเอง
มากไปกว่านั้น เรายังมีข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมที่ผ่านมาของ McDonald’s มาฝากกันจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ระบุว่า McDonald’s มีสาขาที่รองรับการออเดอร์และชำระเงินได้ผ่านอุปกรณ์โมบายล์แล้วทั้งสิ้น 6,000 สาขา ขณะที่ตัวเลขผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนั้น มีแล้วกว่า 30 ล้านครั้ง และในจำนวนนี้มีถึง 9 ล้านคนที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน แต่ที่น่าสนใจก็คือ การขยับครั้งนี้ได้ทำให้ตัวเลขรายได้ในไตรมาสที่ 3 ของ McDonald’s อยู่ที่ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (อย่างไรก็ดี เปอร์เซ็นต์นี้ก็ยังถือว่าน้อย เมื่อเทียบกับ Domina’s Pizza ที่รายได้เพิ่มขึ้น 19% หลังจากเปิดให้ผู้บริโภคออเดอร์อาหารผ่านแอปพลิเคชัน)
โดยนอกจากสาขาในสหรัฐอเมริกาแล้ว ร้านสาขาในประเทศอื่น ๆ อีก 20 ประเทศก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปสู่ประสบการณ์ดิจิทัลนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีแล้วถึง 5,000 แห่งที่นำไปปรับใช้ และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ของ McDonald’s กำลังนำไปสู่การใช้ช่องทางแอปพลิเคชันในการทำตลาดยุคต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัยนั่นเอง
ที่มา:
MobileMarketer
MarketingWeek