สำหรับบทความที่นำเสนอในวันนี้ขอพักเรื่องการตลาดไว้ครู่ แล้วมาดูผลการสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมในการซื้อสินค้าของกลุ่มผู้บริโภคในยุคดิจิตอลทั้งเพศชายและเพศหญิงว่าทั้ง 2 เพศมีรูปแบบในการจับจ่ายใช้สอยแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยให้เรียนรู้ถึงความแตกต่างและเข้าใจพฤติกรรมของท้ง 2 เพศได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เว็บไซต์ Buildablock.com ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าทั้งเพศชายและหญิง โดยพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ในสมัยนี้นิยมซื้อสินค้าเพื่อบำบัดความความเครียดหรือแก้เครียดที่เรียกกันว่า “Retail Therapy” เพิ่มมากขึ้น โดยผลการสำรวจพบว่า ปัจจุบันมีผู้บริโภคเพศหญิงที่ซื้อสินค้าเพื่อบำบัดความเครียดคิดเป็นจำนวนมากถึง 63% ของผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด ในขณะที่ฝ่ายชายมีจำนวนเพียง 39% หรือคิดเป็นสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคเพศหญิงเท่านั้น
พฤติกรรมการซื้อสินค้า (คลายเครียด) ของทั้งเพศชายและหญิงก็พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยเพศหญิงนิยมซื้อสินค้าประเภทเสื้อผ้ามาก่อนเป็นอันดับ 1 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงสุดอยู่ที่ 57.9% รองลงมาเป็นการซื้อสินค้าบริโภค (34.7) รองเท้า (32.4%) เครื่องประดับมีค่า (29.1%) รวมถึงหนังสือและนิตยสาร (28.7%)
ส่วนในกลุ่มผู้บริโภคเพศชายกลับพบว่านิยมจับจ่ายเพื่อการบริโภคมาก่อนเป็นอับดับแรก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ (28.1%) ตามมาด้วยการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (27.4%) เพลงและหนัง (26.6%) เสื้อผ้า (21.5%) สุดท้ายเป็นการซื้อเกมและของเล่น (17.6%)
นอกจากนี้เว็บไซต์ Buildablock.com ยังได้ทำการสำรวจถึงความแตกต่างของพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มผู้บริโภคเพศชายและเพศหญิงในโอกาสต่างๆเช่น การบริจาคเงินเพื่อการกุศล, การซื้อสินค้าในโอกาสพิเศษอย่างวันวาเลนไทน์, การดื่มเพื่อปาร์ตี้สังสรรค์ และการจับจ่ายเพื่อการดูแลตัวเองทั้งในด้านสุขภาพและความงาม
ผลการสำรวจพบว่าการบริจาคเงินเพื่อการกุศลและการดูแลตัวเอง (Personal Care) ส่วนใหญ่ได้รับความสนใจในกลุ่มเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเพศหญิงมีค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองเฉลี่ยอยู่ที่ 524 เหรียญสหรัฐต่อปี ในขณะที่ฝ่ายชายมีการใช่จ่ายต่อปีเพียงแค่ 196 เหรียญสหรัฐ ส่วนการซื้อสินค้าในเทศกาลอย่างวันวาเลนไทน์และงานปาร์ตี้ก็แน่นอนว่าส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้บริโภคเพศชายที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า โดยค่าใช้จ่ายในงานปาร์ตี้ของฝ่ายชายเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 507 เหรียญสหรัฐ ส่วนอีกกลุ่มมีค่าใช้จ่ายเพียง 216 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ที่มา: Buildablock.com