เปิดตัวเลข “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง” ครึ่งปีแรกโตต่อเนื่อง ด้วยยอดสินเชื่อรวมกว่า 33,000 ล้านบาท พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ดึงบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบเข้าใช้งาน และตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านการเดินทางที่หลากหลาย
คุณศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2560 นี้ เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Daimler Financial Services) ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้านบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ”
จุดเปลี่ยนมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพตลาดเช่นใน สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่พบว่ามีบริการประเภทการใช้รถร่วมกัน (car sharing) หรือการให้บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นๆ เป็นรายนาทีในเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งเดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้และได้นำเทคโนโลยีด้านการเดินทางมาปรับใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดตัว Mercedes pay เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สำหรับเป็นแอปพลิเคชันเพื่อชำระค่าบริการผ่านสมาร์ทโฟน
“ในด้านของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 6 เดือนแรกนั้น ผลประกอบการของกลุ่ม เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) กว่า 1 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ และมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 15% อีกทั้งยังมีการให้สินเชื่อใหม่อีกเกือบ 1 ล้านสัญญา เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้จำนวนการให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 4.6 ล้านสัญญา หรือคิดเป็นขนาดสินเชื่อรวม 1.34 แสนล้านยูโร
สำหรับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ยังคงมีผลประกอบการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดสินเชื่อรถยนต์ใน 6 เดือนแรกอยู่ที่กว่า 33,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดมาก และมีการให้สินเชื่อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มากกว่า 45% ของยอดขาย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการการให้บริการแบบครบวงจร (one-stop financial service solution) และการบริการทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึง ‘mySTAR Special’ บริการทางเงินเฉพาะลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของสินเชื่อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และโปรแกรมการประกันภัย ‘MB Protection’ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 71% เติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปัจจุบันให้การคุ้มครองลูกค้าเกือบ 20,000 ราย” คุณศุภวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการขยายช่องทางการให้บริการแบบดิจิทัล ได้แก่
- Dealer Touchpoint (DTP) แอปพลิเคชันช่วยให้ดีลเลอร์สามารถทำธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา
- myBUSINESS เพื่อให้ดีลเลอร์สามารถดูผลประกอบการของตนเองผ่านมือถือ
- Customer Online Service (COS) ระบบที่ลูกค้าสามารถดูประวัติการชำระค่างวด พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน การติดต่อกับทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ได้ด้วยตนเอง
รวมถึงการเพิ่มการให้บริการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Digital Welcome message การแนะนำการใช้งานแบบวีดีทัศน์ การคำนวณยอดปิดสินเชื่อก่อนกำหนด และ การบัตรชำระค่างวดแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปัจจุบันมีลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งมากกว่า 30% ที่ลงทะเบียนใช้งานระบบบริการข้อมูลลูกค้าออนไลน์ดังกล่าว