หลังจากซื้อกิจการ Nokia มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ธุรกิจมือถือของ Microsoft ก็ประสบภาวะขาดทุนสะสมมาเรื่อยๆ โดยปีที่แล้วมีการปลดพนักงานเกือบ 8,000 ตำแหน่ง และล่าสุด มีแผนเลย์ออฟเพิ่มอีก 1,850 ตำแหน่ง
แผนปลดพนักงานในคราวนี้ทำให้พนักงานฝ่ายโทรศัพท์มือถือในฟินแลนด์ว่างงานทันที 1,500 คน และแผนกอื่นๆ ทั่วโลกอีกราวๆ 500 คน จะส่งผลกระทบโดยตรงกับฝ่ายที่ทำธุรกิจมือถือในฟินแลนด์ โดยจะมีนโยบายจ่ายค่าชดเชยตามความเหมาะสม
จากการซื้อกิจการเมื่อ 2 ปีที่แล้ว Microsoft มีพนักงาน Nokia มาอยู่ในสังกัดราวๆ 25,000 คน เท่ากับว่าอดีตพนักงาน Nokia ที่ย้ายมาอยู่ในสังกัด Microsoft ก็จะหายไปจนเกือบหมด ส่วนคนที่ยังอยู่ก็จะทำหน้าที่ในฝ่ายวิจัยและพัฒนาต่อไป เพราะทาง Microsoft เองก็ยังมีบริษัทลูกในฟินแลนด์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการลดจำนวนพนักงาน
อันที่จริงกระแสการลดขนาดธุรกิจมือถือของ Microsoft ก็มีสัญญาณมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพราะมีการทำสัญญาขายธุรกิจฟีเจอร์โฟนของ Nokia ไปให้กับบริษัทลูกของ Foxconn
คำชี้แจงของซีอีโอ Satya Nadella ระบุว่า ทางบริษัทกำลังโฟกัสไปที่จุดแข็งของตัวเอง หรือสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด และจะเดินหน้าจะพัฒนานวัตกรรมเพื่อการทำงานแบบข้ามอุปกรณ์ต่อไป รวมทั้งบริการคลาวด์สำหรับโมบายล์แพลตฟอร์มด้วย
และสำหรับการปลดพนักงานในครั้งนี้ Terry Myerson ผู้บริหารที่ดูแลระบบปฏิบัติการ Windows ก็ยอมรับว่า กำลังถอยมาตั้งหลัก แต่แน่นอนว่าไม่ใช่การออกจากตลาด หรือการยอมแพ้ เพราะธุรกิจของ Microsoft ในตลาดองค์กรก็ดูจะไปได้ดี
นอกจากนี้ เมื่อย้อนกลับมาดูกลยุทธ์เรื่องมือถือในช่วงที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่า Microsoft พยายามเดินตามแผนมามาตลอด เห็นได้จากการเลิกผลิต Lumia เหลือไว้เฉพาะ Surface อย่างเดียว โดยมีข่าวลือว่า อาจจะมีการเปิดตัว Surface รุ่นใหม่ในปีหน้า และ Lumia 650 จะเป็นรุ่นสุดท้ายในตระกูลนี้
ที่มา : The Verge