อากาศร้อนๆ ของเมืองไทยชวนให้นึกถึงแอร์เย็นๆ ซึ่งในตลาดมีเครื่องปรับอากาศให้เลือกหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “Midea” ผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศอันดับหนึ่งของโลกสัญชาติจีน ที่ลุกขึ้นมาประกาศกร้าวว่าจะขยายตลาด และเพิ่มการลงทุนในไทย เพื่อดันตัวเองสู่ท็อป 3 แบรนด์ยอดนิยม ภายใน 5 ปี พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายในไทยเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 74% ในปีนี้ ลองมาดูกันว่าแบรนด์แอร์สัญชาติจีนนี้มีความพิเศษอย่างไรถึงได้มั่นใจขนาดนี้
“Midea Group” ถูกนิตยสารฟอร์จูน ได้จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ผลิตและจำหน่ายสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากที่สุดบริษัทหนึ่ง
โดยเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี (ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2511) จากผู้ก่อตั้งชาวจีนเพียง 23 คนที่รวบรวมเงินมาลงทุนทำธุรกิจในวันเริ่มต้น จนปัจจุบันมีโรงงานผลิต 18 แห่งในจีน และอีก 15 แห่งในต่างประเทศ มีพนักงานราว 1.3 แสนคนทั่วโลก และมีการส่งออกสินค้าไปมากกว่า 200 ประเทศ
ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Midea ในประเทศจีน
ในส่วนของสินค้าเครื่องปรับอากาศ ไมเดีย กรุ๊ป ถือว่าเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลก โดยมีมาร์เก็ตแชร์ดังนี้
- กลุ่มเครื่องปรับอากาศใช้ภายในบ้าน (Residential Air Conditioner หรือ RAC) มาร์เก็ตแชร์ในจีนสูงถึง 28% เป็นอันดับสองในตลาดจีน และส่งออก 24% นับเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่ง
- กลุ่มเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (Commercial Air Conditioner หรือ CAC) ที่ใช้ในออฟฟิศ อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล หรือทาวน์โฮม ไมเดีย กรุ๊ปก็ยังครองมาร์เก็ตแชร์ในจีน 11.5% และส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วน 20%”
โดยช่วงสามปีที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศใช้ภายในบ้าน (RAC) ของ Midea สามารถทำยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดจีนและตลาดโลก ในปี 2560 สามารถขายได้ทั้งสิ้น 38 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 40.7% และยังได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายขึ้นอีก 30% สำหรับตลาดอาเซียนภายในปี 2562
แบรนด์กำลังเติบโตได้ดีในประเทศไทย
เครื่องปรับอากาศ Midea ได้เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังในไทยตั้งแต่ปี 2559 และในขณะนี้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 2.2% ซึ่งโทนี่ หลิว ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงผลการ ดำเนินงานในไทยว่า
“ถึงแม้ตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยระหว่างปี 2560-2561 จะมีอัตราการเติบโต -8.3% เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไม่ ได้ร้อนตามที่คาดการณ์ แต่สินค้าแบรนด์ Midea กลับเติบโตสวนทาง เพิ่มขึ้น 54% ในปีที่ผ่านมา
จากการเดินหน้าขยายช่องทางการขายแบบต่อเนื่อง การสร้างแบรนด์ผ่านการตลาด รวมถึงการให้บริการหลังการขาย จึงทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น รวมถึงการนำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ เพราะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่
ตั้งเป้าหมายในอนาคตสู่การติด Top 3 ของไทย
ในส่วนเป้าหมายสำหรับเครื่องปรับอากาศแบรนด์ Midea โทนี่ เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นจาก
- ปี 2562 นี้ บริษัทฯ มีเป้ามาร์เก็ตแชร์เพิ่ม เป็น 4.5% โดยจะลงทุนเพิ่มขึ้นในเรื่องสินค้าการขยายหน้าร้าน การทำการตลาด
- ปี 2563 มีเป้ามาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 7% โดยจะเน้นเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
- ปี 2564 มีเป้ามาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 9% โดยจะเน้นสร้างการรับรู้ และความเชื่อมั่นในแบรนด์ ให้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ รวมถึงอัพเกรดสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด
- ปี 2565 บริษัทฯ มีเป้ามาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 13% โดยมีแผนที่จะยกระดับ เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและขั้ นตอนการกระจายสินค้าทั่วประเทศให้ทันสมัยยิ่งขึ้น รวมถึงทำกิจกรรมการตลาด การส่งเสริมการขาย และการสร้างแบรนด์
แผนการตลาดในปี 2562
ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำหนดที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ 20 รุ่น ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศใช้ ภายในบ้านและกลุ่มเชิงพาณิชย์ โดยจะเน้นไปที่รุ่นที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก
ในด้านช่องทางจัดจำหน่ายบริษัทฯ จะเน้นการขายสินค้าใน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่
- ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันเป็นช่องทางหลัก
- โมเดิร์นเทรด โดยบริษัทฯ จะเพิ่มพาร์ทเนอร์ในช่องทางนี้ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น
- การขายในรูปแบบโปรเจกต์ ทั้งในรูปแบบ B2B และ B2G นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจะเพิ่มงบด้านการตลาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้งบ 12% ของรายได้ ในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ผ่านแคมเปญการตลาด
อีกจะเน้นการโฆษณาทางช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และการโฆษณาตามสื่อท้องถิ่น นอกจากนั้นจะอัพเกรดศูนย์บริการ ด้วยการเพิ่มจำนวนศูนย์และพื้นที่การให้บริการเพิ่มขึ้น
สินค้าจีนกับกระแสของผู้บริโภค
กระแสการยอมรับสินค้าจีนเพิ่มขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับเครื่องปรับอากาศ Midea ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มเชื่อมั่นและตอบรับกับสินค้าแบรนด์จีนมากขึ้น
เพราะจีนเป็นผู้นำการผลิตสินค้าเกือบทุก ประเภทให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก บวกกับปัจจัยหนุนของรัฐบาลและความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ที่ทำให้เกิด โปรเจกต์ ‘One Road One Belt’ หรือ ‘เส้นทางสายไหม’ ที่จะมาเชื่อมโยงการค้าให้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และส่งผลต่อต้นทุนสินค้าที่จะถูกลง
สร้างจุดแข็งด้วยการผลิต
ด้านผู้บริหารบอกกับทีมงาน thumbsup ว่า “ปัจจัยที่ทำให้ไมเดีย กรุ๊ป เป็นผู้นำตลาดสินค้าเครื่องปรับอากาศ คือการที่บริษัทฯ มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมีโรงงานผลิตส่วนประกอบสำคัญทุกส่วนของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคอมเพรสเซอร์ แผงคอยล์ มอเตอร์ และแผงวงจร และด้วยจำนวนโรงงานผลิตมากถึง 6 แห่งในจีน กับอีก 5 แห่งในต่างประเทศที่ทำให้มีกระบวนการผลิตขนาดใหญ่
สามารถรองรับการผลิตสินค้าเครื่องปรับอากาศได้ทุกประเภท ได้ปีละ 67 ล้านเครื่อง และให้ความสำคัญกับดีไซน์ ได้รับรางวัลด้านการออกแบบ ผลิตภัณฑ์จากเวทีนานาชาติ มามากกว่า 40 รางวัล”
นำ ‘ความร้อน’ มาเป็นโอกาสทางธุรกิจ
คาดว่าปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นความสนใจในผู้บริโภคต่อแบรนด์ Midea ได้แก่ ‘ความร้อน’ ปีนี้อากาศร้อนมากและร้อนเร็ว แอร์ไมเดีย มีคุณสมบัติเด่น Flash Cooling ที่เร่งความเร็ว ซึ่งทำให้ห้องเย็นได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 วินาที
นอกจากนี้ด้วยวิกฤตมลพิษทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ช่วยป้องกันฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสินค้า Midea มีเทคโนโลยี Air MagicTM ที่ช่วยดูแลสุขภาพที่ดีด้วยการยับยั้งแบคทีเรียและฝุ่นละอองในอากาศ
และมีระบบกรองอากาศ Dual Filtration ช่วยดักจับฝุ่นขนาดใหญ่และป้องกันอนุ ภาคขนาดเล็กอีกด้วย หรือกระแสความต้องการประหยัดค่ าใช้จ่ายใน ชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดค่าไฟได้
เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ของ Midea มีระบบ Gear Shift ให้ผู้ใช้เลือกระดับพลังงานที่ ต้องการใช้ได้ 3 ระดับ คือ 50%, 75% และ 100% บวกกับชุดพัดลมแบบ High Static Pressure และท่อระบายความร้อนแบบพิเศษ ทำให้การหมุนเวี ยนและระบายความร้อนดีขึ้น ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้มากถึง 30% นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ฟังก์ชั่น I-ECO ที่ช่วยลดอัตราการใช้พลังงานอย่างเห็นได้ชัดใน 8 ชั่วโมงที่ใช้งาน”
ซึ่งโทนี่ หลิว ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “เราเชื่อว่าเครื่องปรับอากาศ Midea จะกลายเป็นที่นิยมของคนไทยในไม่ช้า เพราะด้วยจุดเด่นในด้าน นวัตกรรม ดีไซน์ และราคา รวมถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องปรับอากาศรายใหญ่สุดของโลกจะสามารถการันตีความพึงพอใจของลูกค้าได้ลูกค้าจะพบกับทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด”
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจและต้องจับตามองกันว่ากลยุทธ์ที่วางไว้ จะสามารถตีตลาดจนครองใจผูเบริโภคชาวไทยได้เหมือนกับที่ตีตลาดในจีนได้หรือไม่