หากย้อนกลับไป 18 ปีที่แล้ว ต้องยอมรับว่าเมนูชานมไข่มุกกับแก้วพลาสติกทรงกระบอกยาว เป็นเมนูที่ฮิตมากท่ามกลางเด็กนักเรียนแถวสยามที่ต้องไปต่อคิวซื้อกินกัน ตามมาด้วยเทรนด์เมนูขนมมากมายไม่ว่าจะเป็น Rotiboy เครปเย็น โดรายากิ (ขนมสุดโปรดของโดราเอมอน) ท็อฟฟี่เค้กสวนดุสิต หรือชูโรส เป็นต้น
หากอ่านตามเมนูข้างต้น ขนมเหล่านี้เรียกว่าหาได้ไม่ยากเลย แต่ในสมัยก่อนนั้นต้องต่อแถวรอกันนานเลยทีเดียว แต่อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เมนูชานมไข่มุกยังอยู่รอดได้ แค่เครื่องดื่มที่เคยเริ่มต้นด้วยราคา 30-40 บาทในอดีตก็ถือว่าแพงแล้ว
แต่ตอนนี้ชานมไข่มุกกลับมีราคาสูงแตะ 100-150 บาทกันเลยทีเดียว เรามาย้อนรอยเส้นทางครื่องดื่มยอดฮิตนี้กันค่ะ ชานมไข่มุกเดินทางมาจากประเทศไต้หวันเมื่อหลายปีก่อน แล้วเดินทางมาถึงประเทศไทย จนเกิดร้านชานมไข่มุกเกิดขึ้นทั่วหัวระแหง ทีมงานได้ไปลองสำรวจร้านที่ขายชานมไข่มุกย่านสยามทั้งหมด พบว่ามีถึง 32 ร้าน!!
Siam Discovery 2
- Share Tea
- Heekcaa
Siam Center 2
- Mr.Shake
- Fuku
Siam Paragon 10
- After You
- QQ dessert
- ชาตรามือ
- Kamu
- Koi
- CoCo
- Cheevit Cheeva
- Brix dessert bar
- Mr.Shake
- Fucheer
Siam Square 9
- Tea ‘O’ Hollis
- Mr. Shake
- Tea Story
- Moma’s Bubble Tea Bar
- ATM Tea Bar
- Seoulcial Club
- ต้นกาแฟสด
- Cyber Coco
Siam Square One 9
- ChaEn Lg
- Lunar Nuna
- Kamu
- Brown
- Minimono
- CoCo
- Koi
- Alley
- Ochaya
- After you
โดยทุกร้านมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งเม็ดไข่มุก ความหวานหอมของชา บางร้านก็ใช้โซเชียลช่วยโปรโมตจนลูกค้าแน่นเอี๊ยด และราคาหลากหลายตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย
วิเคราะห์ธุรกิจชานมไข่มุกทำไมถึงฮิต
หลังจากสร้างกระแสไว้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ชานมไข่มุกก็เวียนกลับมาฮิตอีกครั้ง โดยเราคาดว่าเพราะความหนึบหนับของไข่มุก ที่ทำจากเม็ดแป้งจากมันสำปะหลังนั้นเข้ากันได้ดีกับตัวชา ถึงแม้จะมีธุรกิจชานมไข่มุกเกิดขึ้นมามากมาย แต่ผู้ประกอบการหลายคนก็ยังเลือกเดินเข้าสู่ธุรกิจนี้ เพราะเรามองว่าถึงแม้จะมีร้านชานมผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ก็ทำให้ตลาดมีการเติบโตตามไปด้วย อย่างแบรนด์ชานมไข่มุกยอดฮิต KOI กิจการจากประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจและสูตรความอร่อยจากชานมไข่มุกประเทศไต้หวัน ในวันเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทยนั้นมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,595,975.23 บาท แต่เวลาผ่านไป 1 ปีกลับมามีรายได้เพิ่มสูงถึง 62,311,622.49 บาท เรียกได้ว่าเติบโตมากขึ้นถึง 1,632.82% เลยทีเดียว
นอกจากนั้นเรายังมองว่ามีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้การกลับมาครั้งนี้ของ “ชานมไข่มุก” ทวงบัลลังค์เครื่องดื่ม จนขึ้นแท่นเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตได้นั่นคือ
- การกลับมาที่เพิ่มความพิเศษลงไป เช่น ลาวา, เม็ดไข่มุกแบบ Brown Sugar, Topping Cheese, รสชาติแปลกๆ อย่างไข่เค็ม หมอนทอง ฯลฯ
- ใช้โซเชียลโปรโมต หลายร้านเปิดใหม่มีลูกค้าไปต่อแถวกันยาวเหยียด มีการลงภาพเช็คอินร้านในโซเชียลมากมาย จึงไม่แปลกเลยที่จะมีหลายคนอยากไปทดลองชิมชาไข่มุกบ้าง
Social Club ร้านชานมอีกหนึ่งร้านที่มีลูกค้าแน่นร้านและโพสต์ในโซเชียลหลายโพสต์จากลูกค้า
- หาซื้อง่าย จากสองปัจจัยด้านบนเป็นส่วนที่ทำให้ “ชานมไข่มุก” ขายดิบขายดี สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการมากมาย จึงไม่แปลกที่จะมีธุรกิจนี้ผุดขึ้นตามมาในหลากหลายยี่ห้อ และเมื่อยื่งหาซื้อง่าย คนก็ยิ่งเลือกดื่มเยอะ จึงไม่แปลกเลยที่ชานมไข่มุกจะไปอยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภคที่คุ้นชินและเลือเป็นเครื่องดื่มลำดับแรกๆ
- กระแสความนิยมในประเทศไต้หวัน ซึ่งมี “ชานมไข่มุก” เป็นเครื่องดื่มที่โด่งดังของประเทศ ในปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวไต้หวันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากนโยบาย New Southbound Policy ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท่องเที่ยวได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า และหลายๆ คนก็ยิ่งติดใจในรสชาติของ “ชานมไข่มุก” มากยิ่งขึ้น
ภาพจาก : CHA BAR BKK
- เทรนด์สุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น เพราะผู็บริโภคหันมาให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพกัน จนก่อนหน้านี้กระแสของชานมไข่มุกซาลงไป เพราะถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มทำลายสุขภาพ แต่ในปัจจุบันผู็บริโภคมีทางเลือกมาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งแบบหวานน้อย (เลือกระดับความหวานเองได้), หรือเลือกทานชานมไข่มุกแบบที่ดีต่อสุขภาพไปเลยอย่างชานมของร้าน ChaBar ที่มีเม็ดไข่มุกที่ทำจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่ถึงแม้จะไม่ได้เปลี่ยนให้ชานมไข่มุกเป็น “เครื่องดื่มส่งเสริมสุขภาพ” ไปเลย แต่ก็ตอบรับเทรนด์ใส่ใจสุขภาพได้ส่วนหนึ่ง
ทำไมยังเลือกทำธุรกิจร้านชานมไข่มุก
นนทวิทย์ โรจนศักดิ์ชัย Fouder ร้าน Brix dessert bar บอกกับเราว่า ร้านนี้เปิดมาได้ 2 ปีแล้ว ช่วงแรกขายเมนูประเภทเบเกอรี่ และขนมหวาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าชาวไทยและต่างชาติผสมกันอย่างละ 50% ประกอบกับไปเที่ยวฮ่องกงก็ได้สูตรชานมไข่มุกมา ก็เลยนำมาขายเพิ่มเติมและปรับปรุงสูตรให้เข้ากับปากคนไทย ทำให้ขายดีขึ้นแบบเร็วมาก มียอดขายเฉพาะชานมไข่มุก วันละ 200-300 แก้วต่อวันเลยทีเดียว โดยเขาบอกกับเราอีกว่า “เมนูชานมไข่มุกเพิ่งเข้ามาเสริมในเมนูเพียง 2 เดือนเท่านั้น แต่ตอนนี้กลายเป็นรายได้หลักของร้านไปแล้ว ซึ่งคนไทยยังคงนิยมชานมไข่มุกเช่นเดิม อาจเพราะกินง่ายและอิ่มท้อง ทำให้คนไทยชอบกันมาก ซึ่งตอนนี้ลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแล้ว”
ข้อมูลจาก: