Site icon Thumbsup

Mindshare เผยข้อมูลปี 2558 ย้ำแบรนด์ต้องปรับตัวเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลและ Multi-screen

mindshare-sharelogo

ทาง Mindshare บริษัทเอเยนซีเครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสารในประเทศไทย หนึ่งในเครือ WWP Network ได้เปิดบ้านพร้อมเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นในปี 2558 พร้อมให้มุมมองต่อการตลาดในปี 2559 ซึ่งเน้นว่าแบรนด์ควรมีการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการสื่อสารการตลาดให้ครอบคลุมและเชื่อมถึงทุกแพล็ตฟอร์ม

คุณปัทมวรรณ สถาพร กรรมการผู้จัดการ Mindshare ได้พูดถึงข้อมูลที่มีในปี 2558 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปว่า เป็นปีแห่งความคิด (Wise) และมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเยอะ (Compassionate)

ส่วนตัวเลข GDP ที่มีการคาดการณ์เอาไว้เมื่อปลายปี 2557 ว่าปี 2558 น่าจะอยู่ในช่วง 2-4% ถึงเดือนพฤศจิกายน จบที่ 2.9% ตามที่คาดเอาไว้

Screen Shot 2015-12-16 at 11.15.26 PM

ความมั่นใจของ consumer เริ่มต้นปีสูงมากจนมาช่วง Q3 ลดลงและตอนนี้เริ่มกลับมาเป็นขาขี่นอีกครั้ง

Screen Shot 2015-12-16 at 11.15.44 PM

Advertisement Expenditure หรือ ADEX (เม็ดเงินในการลงโฆษณา) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะโตอยู่ที่ 4-7% ตัวเลข ณ ตอนนี้อยู่ที่ 4.5

Screen Shot 2015-12-16 at 11.18.10 PM

เงินที่ลงไป TV ยังคงมีเม็ดเงินลงเพื่อการโฆษณาอยู่ โดยลงไปเกือบ 70% analog 47% digital 17% และ เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม 5%

Screen Shot 2015-12-16 at 11.23.11 PM

จากตัวเลขในการชมทีวีดิจิทัลสามารถคาดการณ์ได้ว่า ช่องทีวีดิจิทัลจะแซงช่องอนาลอคภายใน 2 ปี

การดูทีวีในตอนนี้มีความหลากหลายมากขึ้นด้วยจำนวนช่องที่มากขึ้น โดยตอนนี้ Digital TV ที่ดูเยอะที่สุดคือ Workpoint รองลงมาคือ ช่อง 8

ภาพรวมของดิจิทัลในประเทศไทย (ข้อมูลบางอย่างอาจมีการอัปเดทแล้ว เช่น Instagram อยู่ที่ 7.1 ล้าน เป็นต้น)

10 อันดับของอุตสาหกรรมที่เทเม็ดเงินลงสู่ดิจิทัล และ 10 แบรนด์ที่ใช้เงินบนดิจิทัลมากที่สุด

ความน่าสนใจอยู่ที่ FMCG ของสองค่ายใหญ่ในอันดับ 1 และ 7 ที่มีเม็ดเงินเพิ่มและลดที่แตกต่างกันอย่างมาก และสิ่งที่รู้ก็คือ มีการถ่ายเทการลงเงินจากออฟไลน์ไปยังดิจิทัลมากขึ้น

สำหรับปี 2016 ทาง Mindshare แทนด้วย 4 คำ enthusiastic, self-assured, sociable, innovative มีความกระตือรือร้นมากขึ้นรวมทั้งมี Innovative มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

ส่วนการคาดการณ์ตัวเลขต่างๆ มีดังนี้

 

เทรนด์ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนในปี 2559 ทาง Mindshare ให้มา 5 ข้อ ได้แก่

นอกจากการพูดถึงทิศทางที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทาง Mindshare ได้ทำการเปิดตัว Loop Room การรวบรวมข้อมูลทั้งหลายที่เกิดขึ้นบนออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาวิเคราะห์ในเชิงลึกในแบบ Real-Time ซึ่งก็จะสามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงและรู้เทรนด์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับคิดทำแคมเปญของแบรนด์ที่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

โดยข้อมูลที่เอามาใช้ใน Loop Room ได้แก่

ด้วยบริการนี้จะช่วยให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคในสถานการณ์และพัฒนากลยุทธให้ล้อไปกับแคมเปญที่แบรนด์ต้องการได้

ทั้งหมดคือข้อมูลที่ทาง Mindshare เปิดเผย ซึ่งทิศทางที่เราเห็นและจับต้องได้คือ เม็ดเงินมหาศาลที่จะวิ่งมาสู่ออนไลน์ และไม่ใช่แค่ออนไลน์ ทีวีก็ยังคงเป็นสื่อหลักที่ยังทิ้งไม่ได้ โดยการทำก็คือการเอาหลายๆ สิ่งมาผสมผสานกันกับออนไลน์ ทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และแบรนด์ต้องได้ Conversion ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย