ปีใหม่ หลายคนอาจต้องเริ่มขอบเขตงานใหม่ หากใครที่รู้ตัวว่าเป็นมือใหม่การทำ email marketing ขอเชิญไปชมโอกาสผิดพลาด 5 จุดที่อาจจะทำให้แคมเปญใหม่ล้มไม่เป็นท่า
1. อย่ามากอย่าน้อย
จำนวนอีเมลที่ส่งให้กลุ่มเป้าหมายนั้นควรอยู่ในระดับที่พอดี ถามว่ากี่ฉบับจึงจะไม่มากไปและไม่น้อยไป? คำตอบจากการสำรวจล่าสุดพบว่า 86% ของผู้บริโภคระบุว่าพอใจที่ได้รับ marketing email จากบริษัทที่สนใจ 1 ฉบับต่อเดือน
ขณะที่ 60% ยินดีที่จะรับอีเมลสัปดาห์ละครั้ง มี 15% เท่านั้นที่แฮปปี้หากจะรับทุกวัน
ในทางตรงกันข้าม การศึกษายังแสดงให้เห็นว่านักการตลาดอีเมล 35% ส่งอีเมล 2 ถึง 3 อีเมลต่อเดือน 21% ส่งอีเมล 4 ถึง 5 ฉบับและ 19% เท่านั้นที่ส่งฉบับเดียวต่อเดือน
2. อย่าใช้ระบบ customization ให้ใช้ personalization
การสำรวจปี 2016 พบว่า การปรับแต่งหัวเรื่องอีเมลทำให้จำนวนการเปิดอีเมลเพิ่มขึ้นประมาณ 30% แต่เหมาะสมกับบางกรณีเท่านั้น เช่น เมื่อต้องการส่งชุดอีเมลอัตโนมัติไปยังลูกค้าใหม่, เมื่อต้องการส่งอีเมลไปยังลูกค้าที่ยกเลิกรถเข็นก่อนสั่งซื้อ, อีเมลพร้อมโปรโมชัน, อีเมลสำรวจความพึงพอใจ และอีเมลคูปองส่วนลดสำหรับวันเกิดหรือสำหรับกิจกรรมพิเศษ
แต่กรณีนอกเหนือจากนี้ การทำ personalization จะเหมาะสมกว่า การปรับเปลี่ยนสำหรับลูกค้ารายคนจะได้ผลดีมากเหมือนที่แบรนด์ Amazon เองก็ทำ
3. ส่งอีเมลโดยไม่แบ่งกลุ่ม
เมื่อลูกค้าลงทะเบียน ส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลที่สำคัญทั้งเพศชายหรือหญิง วันเกิด ที่อยู่ และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นกับบริการ ข้อมูลนี้ช่วยให้นักการตลาดสามารถส่งอีเมลที่มีการกำหนดเป้าหมายได้ดีขึ้น ทำให้ไม่เกิดปัญหาสแปมเพราะอีเมลสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่จัดประเภทไว้
การแบ่งประเภทนี้ไม่เพียงช่วยให้อีเมลของบริษัทไม่เสี่ยงเป็นสแปม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของอีเมล ให้คุ้มค่ากับการลงทุนที่ทำไป
4. เนื้อหามากเกินไป
อีเมลนะไม่ใช่ว่าว อีเมลที่ดีไม่ใช่หนังสือพิมพ์ เต็มที่ก็ 7-8 scroll ตามจำนวนครั้งที่ผู้อ่านจะเลื่อนหน้าจอลงหรือมากกว่านั้น
5. “no reply”
แม้จะเป็นอีเมลที่ “no reply” หรืออย่าตอบกลับเมลนี้ แต่จงเขียนชื่อธุรกิจและเขียนชื่อบุคคลที่ส่งอีเมลแทนธุรกิจให้ชัดเจน เพราะผู้ส่งเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของอีเมลเทียบเท่ากับเป้าหมายของอีเมลทีเดียว
เหตุผลคือเพราะอีเมลส่วนบุคคลจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ลูกค้าจะรู้สึกชัดเจนว่ามีคนที่อยู่เบื้องหลังอีเมลที่ส่งถึง นอกจากนี้หากพวกเขาไม่ทราบว่าเป็นบริษัทใด ทุกคนจะไม่มีเหตุผลที่จะเปิดเว็บไซต์เข้าไปใช้บริการ
ที่มา : Business2community