มาแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับปรากฎการณ์ ‘Clubhouse’ แอปพลิเคชันโซเชียลน้องใหม่ที่สื่อสารกันด้วยเสียงเท่านั้น
แม้ว่ากระแสจะเข้ามาในสังคมออนไลน์ได้หลายอาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับแอปฯนี้อยู่ไม่น้อย
ทีมงาน Thumbsup จึงได้ทดลองใช้งานและรวบรวมข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครหลายคนไว้แล้ว มีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
Invite ด้วยเบอร์โทรศัพท์ไม่ใช่ Username
หลายคนโหลดแอปฯ มาแล้ว กรอกชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ และตั้ง Username เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอ Invite แต่สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคือ แชร์ @Username ตามโพสต์หรือกลุ่มต่างๆ เพื่อตามหา Invite ซึ่งความจริงต้องเมมเบอร์โทรศัพท์เพื่อส่ง SMS คำเชิญเท่านั้น ทั้งนี้ การโพสต์เบอร์โทรไว้แบบสาธารณะก็ไม่ปลอดภัย ขอแนะนำให้ inbox นะครับ
อยากเป็น Speaker ต้องมีความรู้
ในช่วงแรกเรามักจะเห็นห้องสนทนาต่างๆ ที่มีหัวข้อน่าเข้าไปหาความรู้ แต่ในระยะหลังห้องสนทนาใน Clubhouse มีความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และหลากหลายมากขึ้น อาทิ วิธีรับมือกับการเป็นคนดัง, เราจะแกล้งเสียงหล่อกันแบบไร้เหตุผล, ห้องที่ยมบาลจะมาถามคุณว่าเป็นอะไรตาย เป็นต้น
Android ไม่สามารถเล่นได้
จริงอยู่ที่ ณ ปัจจุบัน (17 ก.พ.) แอปฯ Clubhouse รองรับระบบ IOS เท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่า Android จะไม่สามารถเล่นได้เลย ซึ่งตอนนี้เปิดให้ใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการณ์แล้ว ทำให้จำนวนผู้ใช้งานพุ่งสูงขึ้นมาก
เปลี่ยนชื่อและ Username ไม่ได้
คลับเฮาส์ระบุไว้ตอนสมัครว่า เป็นแอปพลิเคชันสำหรับตัวตนจริงๆ ใช้ชื่อ-สกุลจริง เนื่องจากผู้ก่อตั้งต้องการให้เกิดชุมชนที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้ ดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้สามารถเปลี่ยนชื่อและ Username ได้ 1 ครั้ง
หนึ่งบัญชีเชิญได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น
เมื่อสร้างบัญชีบน Clubhouse สำเร็จแล้ว ที่ไอค่อนจดหมายเราจะพบว่า Clubhouse อนุญาตให้เราสามารถเชิญคนอื่นๆ ได้ 2 ครั้งแล้วก็จะหมดไป แต่ในบางกรณีเราสามารถกดปุ่ม ‘Let them in’ ซึ่งเป็นการอนุมัติให้คนรู้จักสร้างบัญชีได้โดยไม่เสีย Invite นอกจากนี้เมื่อเล่นไประยะหนึ่งแอปฯ จะแจก Invite เพิ่มอีก 3 ครั้ง
ต้องเป็น CEO หรือ Co-founder เท่านั้น
อย่าตกใจไปถ้าเข้าแอปฯ ไปแล้วเจอแต่ CEO หรือ Co-founder ขององค์กรต่างๆ ภายในแอปฯ ไม่มีนโยบายจำกัดว่าผู้ใช้งานต้องมีตำแหน่งอะไร เพียงแค่คุณได้รับเชิญจากผู้ใช้ในแอปฯ ก็สามารถมีบัญชีใน Clubhouse ได้แล้ว