บริษัทวิจัย Flurry เผยจำนวนผู้ใช้แอพพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่จากผลสำรวจกลับแสดงให้เห็นว่ารายได้จากสื่อชนิดนี้กลับไม่ค่อยกระเตื้องขึ้นสักเท่าไหร่
Flurry ทำการศึกษาโดยวัดจากจำนวนผู้ใช้แอพยอดนิยม 250 อันดับของทั้ง iOS และ Android ซึ่งผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าใจช่วงเวลาพักผ่อนของประชากรชาวอเมริกัน หรือช่วงเวลาตั้งแต่ 2 ทุ่ม – 4 ทุ่ม มีจำนวนผู้ใช้แอพบนอุปกรณ์พกพาสูงถึง 58 ล้านคนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม Flurry ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาในแง่ของการสร้างรายได้จากโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา โดยข้อมูลของ IAB แสดงให้เห็นว่าในปี 2012 ตลาดอุปกรณ์พกพาทำรายได้ราว 3,400 ล้านเหรียญ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสื่อยุคเก่าอย่างทีวี ที่โฆษณาบนสื่อชนิดนี้ทำรายได้ถึง 74,000 ล้านเหรียญ
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวถึงสาเหตุที่ตลาดอุปกรณ์พกพาไม่ทำเงินเท่าที่ควร ว่าเป็นเพราะโครงสร้างของการทำเงินมีหลากหลายรูปแบบ และตลาดมีการแบ่งยิบย่อยมากเกินไป นอกจากนี้การเข้าถึงผู้ใช้งานอุปกรณ์พกพา ยังยากกว่าการเข้าถึงผู้ชมโทรทัศน์อีกด้วย
Benjamin Swinburne นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ยังย้ำให้เห็นว่าถึงแม้เรทติ้งของโทรทัศน์จะตกลงไปกว่า 50% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่โทรทัศน์ก็ยังเป็นสื่อชนิดเดียว ที่นักการตลาดสามารถทำให้คน 5 ล้านคนเห็นโฆษณาได้ในเวลาเดียวกัน แต่บนสื่อออนไลน์อย่าง Facebook นักการตลาดอาจจะทำให้คนเห็นได้ 5 ล้านคนเหมือนกัน แต่ในทุก 1,000 คน มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่จะคลิกโฆษณา
ถึงจะมีแต่ข้อเสีย แต่ Paul Gelb จาก MoPub ก็แย้งว่าเป็นเพราะสื่อชนิดนี้ยังใหม่อยู่ และจากการที่บริษัทโฆษณาหลายแห่งหันมาให้ความสนใจสื่อนี้กันมากขึ้น ในที่สุดแล้วสื่อนี้จะได้รับความนิยมมากกว่าหรือเทียบเท่าโทรทัศน์ได้ไม่ยาก
นี่เป็นการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ แต่คนที่จะเลือกสื่อที่เหมาะกับแบรนด์มากที่สุดก็คือนักการตลาดของแต่ละค่าย ตรงนี้เราขอแนะนำว่าอาจลองตัดสินใจจากงบประมาณดูก็ได้ เพราะราคาโฆษณาบนโทรทัศน์นั้นไม่ใช่ถูกๆ
ที่มา: Mashable