การเปิดให้ชาวออนไลน์เล่นเกมบนอุปกรณ์พกพาได้ฟรีหรือ freemium mobile game นั้นอาจไม่ใช่หนทางทำเงินให้ธุรกิจเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับรายได้ส่วนใหญ่ เนื่องจากการสำรวจล่าสุดพบว่ารายได้ 64% ของบริษัทเกมมือถือนั้นมาจากกลุ่มผู้เล่นเพียง 0.23% ที่ยอมเสียเงินซื้อสินค้าในเกมเท่านั้น
การสำรวจ 2015 Mobile Monetization Report ของบริษัทวิจัยการตลาด Swerve พบว่าบริษัทเกมมือถือมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ใช้ที่ยอมคลิกซื้อสินค้าในเกมหรือ in-game purchases ซึ่งมักมีข้อเสนอให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้หลากหลายกว่า มีอาวุธมากกว่า รวมถึงมีความสนุกตื่นเต้นมากกว่าหากยอมจ่ายเงินในกระเป๋า
Swerve ระบุว่าสัดส่วนผู้เล่นเกมที่ยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการ in-game purchases ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คือ 2.3% ของผู้เล่นทั้งหมด โดยตัวเลขนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปี 2014 นอกจากนี้ Swerve ยังพบว่ายอดใช้จ่ายเงินในเกมต่อเดือนนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เป็น 29.17 เหรียญสหรัฐฯ จากปีที่แล้ว 22 เหรียญ
ในกลุ่มคอเกมที่ยอมซื้อ in-game purchases ราว 44% ตัดสินใจซื้อ 1 ครั้ง ขณะที่อีก 20% ตัดสินใจซื้อซ้ำเกิน 5 ครั้งขึ้นไป ด้านล่างคือกราฟแสดงรายละเอียดจำนวนครั้งการซื้อเกม
อย่างไรก็ตาม การสำรวจพบว่าคอเกมใช้เวลาตัดสินใจซื้อ in-game purchases เร็วขึ้น โดยค่าเฉลี่ยเวลาเล่นเกมของผู้ตัดสินใจซื้อ in-game purchase ครั้งแรกนั้นอยู่ที่ 15 ชั่วโมง ถือว่าเร็วกว่าปีที่แล้ว ซึ่งพบว่าคอเกมต้องลองเล่นกว่า 24 ชั่วโมงจึงตัดสินใจซื้อ
การสำรวจยังพบอีกว่ารายได้มากกว่าครึ่งของค่ายเกมมือถือมาจากผู้ใช้รายใหม่ ซึ่งทดลองเล่นเกมในช่วง 2 สัปดาห์แรก ผลสรุปข้อนี้ถือเป็นความท้าทายที่บริษัทเกมมือถือต้องระลึกให้ดีก่อนวางยุทธศาสตร์ให้บริษัท
ที่มา : Investor.com