(ภาพจาก?winsonyeung.com)
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ หรือบรรดาอุปกรณ์พกพาได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนเราไม่ปัจจุบันมากขึ้น จนแทบจะเรียกได้ว่ากลายเป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญชิ้นหนึ่งในร่างการคนเราไปเสียแล้ว และก็คงจะไม่แปลกถ้าการทำการตลาดที่มาอยู่บนโทรศัพท์มือถือจะเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและกระจายเป็นวงกว้างได้มากกว่าการตลาดรูปแบบอื่นๆ
ผมพูดมาถึงตรงนี้ หลายท่านที่ยังไม่ทราบอาจจะอยากทราบว่า “Mobile Marketing” คืออะไร? และบรรดาแบรนด์หรือแม้แต่คุณเอง ที่คิดอยากจะนำการตลาดในรูปแบบนี้มาใช้กับธุรกิจจะต้องทำอย่างไร และคุณพร้อมแค่ไหนที่จะทำการตลาดในรูปแบบนี้…
เริ่มแรกต้องขออธิบายเกี่ยวกับ “Mobile Marketing” กันก่อน ว่าที่จริงแล้วมันก็คือ การทำการตลาดโดยอาศัยช่องทางผ่านอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาที่อยู่กับลูกค้า แน่นอนว่าผู้ที่จะทำการตลาดแบบนี้ต้องมีช่องทางการติดต่อกับลูกค้าได้ อย่างเช่นการมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของลูกค้าเป็นฐานข้อมูลเดิมอยู่แล้ว
โดยผู้ส่งอย่างแบรนด์ ก็จะนำส่งข้อมูล ข่าวสาร สินค้าผลิตภัณฑ์หรือบริการ และการส่งเสริมการขายแบบต่างๆ ไปยังลูกค้าเป้าหมาย?ทั้งนี้เป้าหมายยังรวมไปถึงการสร้างภาพลักษณ์ให้กับตราสินค้า และการจัดการกับระบบลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ไปด้วยในตัว
ว่ากันว่าปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์นั้นมีมากกว่าประชากรในแต่ละประเทศไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่นที่สหรัฐฯ ซึ่งมีตัวเลขประชากรน้อยกว่าจำนวนเลขหมายในประเทศไปเสียแล้ว นอกจากนี้สมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทดีไวซ์ยังมีอัตราการเติบโตสูงมากขึ้นแบบเท่าทวีเสียด้วย
ปัจจุบันระบบการค้าแบบ E-Commerce นั้นกำลังพัฒนาและก้าวสู่การเป็น M-Commerce ซึ่งนั่นทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณเปรียบไปก็เหมือนกับร้านค้า ที่ไปอยู่ในทุกๆ สถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่ทำงาน ที่โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งสถานีตำรวจ นอกจากนี้ตัวเลขที่บ่งบอกว่าคนเริ่มหันมาซื้อของผ่านโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่บอกว่า แบรนด์ควรหันกลับมามองแล้วว่า Mobile Marketing จะช่วยให้พวกเขาจะมีอาวุธที่สำคัญอยู่ในมือได้อย่างไร
(ภาพจาก digitaltrainingacademy.com)
คำถามคือ…คุณพร้อมแค่ไหนกันล่ะ ลองตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ หากทั้งหมดที่ผมกล่าวไปเป็นสิ่งที่คุณมีอยู่อย่างสมบูรณ์ คุณก็น่าที่จะพร้อมก้าวสู่สนามรบทางการตลาดแบบ Mobile Marketing แล้วล่ะครับ
1. คุณมีฐานลูกค้าในมือมากพอไหม – น้อยหรือมากเกินไปคงยากที่จะตัดสินกับจำนวนข้อมูลของลูกค้าในมือคุณ คุณควรจะลองทบทวนดูว่าด้วยฐานลูกค้า และอัตราความสำเร็จที่การตลาดแบบ Mobile Marketing ที่คาดมีอยู่เท่าไร การคาดคะแนกับครั้งแรกๆ จะเป็นประสบการณ์ที่จะตอบคุณได้ว่าฐานลูกค้ามีมากพอหรือไม่ และคุณอาจจะต้องหาข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติมต่อไปภายหลัง
2. คุณมีความใส่ใจกับลูกค้าของคุณมากแค่ไหน – อย่าลืม! อัพเดตข้อมูลลูกค้าอยู่เสมอ เพราะจะมีประโยชน์อะไรหากข้อมูลจำนวนมากที่คุณมีอยู่นั้น ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เพียงเพราะคุณขาดการอัพเดตข้อมูลลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ ปัจจุบันการเปลี่ยนที่อยู่ติดต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบอร์โทรศัพท์
3. มีความคิดสร้างสรร มีไอเดียเจ๋งๆ ในการทำแคมเปญหรือการตลาดหรือยัง? – การตลาดแบบ Mobile Marketing นั้นเป็นการนำข้อดีของช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้ามาเป็นจุดแข็ง เพราะคุณจะมีโอกาสที่จะแจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบเพื่อการเพิ่มยอดขาย และแจ้งโปรโมชั่นอื่นๆ ที่การสื่อสารรูปแบบอื่นไม่สามารถทำได้ หากมีไอเดันเด็ดๆ ที่จะเข้าถึงลูกค้า และให้พวกเขาตอบสนองกับข้อความของคุณได้ แน่นอนว่า “โอกาส” ของคุณกำลังมาแล้ว!!!
ยกตัวอย่างเช่นการนำเทคโนโลยีแบบ Location Based มาร่วมใช้กับ SMS (เมื่อลูกค้าอยู่ในบริเวณที่คุณต้องการก็ให้ส่งข้อความหาพวกเขา คล้ายกับที่เรามักได้รับข้อความต้อนรับเมื่อไปเดินตามงานาแสดงสินค้า) แล้วให้ส่วนลดร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือการนำบาร์โค้ด QR มาเล่น โดยให้ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษหลังการสแกนบาร์โค้ดดังกล่าว เป็นต้น
4. เตรียมสิทธิพิเศษที่น่าสนใจพอ ให้ลูกค้าของคุณหรือยัง? – แม้ว่าจะมีฐานข้อมูลที่อัพเดตล่าสุด มีไอเดียเด็ดๆ จะให้ลูกค้าชอบและระลึกถึง แต่การขาดแรงจูงใจในการซื้อสินค้าของลูกค้า จะทำให้การทำตลาดของคุณล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า
ว่ากันว่าในต่างประเทศ มีการสำรวจข้อมูลว่ากว่าร้อยละ 60 ของลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านระบบ Mobile Commerce นั้น มักมีแรงจูงใจประเภทส่วนลด คูปอง การแถมประเภทต่างๆ หรือเช็คของขวัญ เป็นต้น
(ภาพจาก buffaloseoconsultants.com)
สิ่งที่ผมเล่ามานั้นอาจจะเป็นแค่การเริ่มต้นก่อนการคิดทำการตลาดแบบ Mobile Marketing อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จจากการตลาดรูปแบบนี้มากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าการทำแบบเดียวกัน จะประสบความสำเร็จเสมอไป
กลยุทธ์การตลาดนั้น ไม่ได้มี Best Practice ที่สามารเอามากางและทำตามเพื่อความสำเร็จได้อย่างถูกต้องแม่นยำ หากแต่นักการตลาดควรสำรวจตลาด ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสินค้า รวมไปถึงการเลือกวิธีทางการตลาดที่จะนำมาใช้ด้วย…