ในปีนี้เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับระบบการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ถือได้ว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ทีสุดในโลก เพราะแม้กระทั่งในบ้านเราเอง บริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งผู้ผลิตอุปกรณ์หรือจะเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายๆ ราย ต่างก็เริ่มแสดงศักยภาพในการสร้างโซลูชันบนอุปกรณ์พกพากันมากมาย คาดกันว่าปีนี้ตัวเลขการชำระเงินด้วยมือถือของเมืองมะกันอาจจะแตะหลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นได้…
จริงๆ แล้วหากจะเป็นสหรัฐฯ ที่จะมีตัวเลขการใช้งานระบบชำระเงินผ่านมือถือสูงเป็นอันดับหนึ่งก็คงไม่แปลกนัก เพราะที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการอย่าง Square, intuit หรือ รายอื่นๆ อีกเป็นสิบๆ ราย ที่เป็นผู้ให้บริการ Mobile Payment ต่างก็มีจุดกำเนิดอยู่ที่เมืองมะกันทั้งสิ้น
หากแต่ตัวเลขที่ทาง eMarketer คาดการณ์จำนวนหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่างหาก ที่ดูน่าตื่นเต้น เพราะเมื่อปีก่อนหน้านี้ ตัวเลขการชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพายังแตะระดับแค่ห้าร้อยล้านเหรียญ หรือประมาณครึ่งเดียวของตัวเลขที่คาดในปีนี้เท่านั้น
สาเหตุหนึ่งที่เกิดตัวเลขคาดการณ์สูง เนื่องจากมีการคาดกันว่าบรรดาประชากรคนเมืองมะกัน เริ่มเกิดความเคยชินและเชื่อใจในระบบการชำระสินค้าผ่านอุปกรณ์พกพากันมากยิ่งขึ้น ประกอบกับผู้รับชำระก็มีแพร่หลาย ดังเช่นการใช้บัตรเครดิตชำระค่ากาแฟในทุกๆ วัน ซึ่งกลุ่มคนที่ชำระค่าสินค้าเล็กๆ น้อยๆ นี้ ถือเป็นกลุ่มหลักที่จะผลักดันตัวเลขดังกล่าว
ส่วนสาเหตุประกอบอื่นๆ ก็คงเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่เติบโตขึ้น อย่างการนำ NFC เข้ามาใช้ร่วมกับการชำระเงินดังกล่าว รวมถึงระบบที่มีความรวดเร็ว และผู้ใช้งานส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจและเห็นภาพการชำระเงินนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
ก็น่าสนใจต่อไปว่าตัวเลขที่คาดการณ์ว่าในอีกสี่ปี หรือในปี 2017 ตัวเลขที่โตขึ้นอีกกว่า 58 เท่าตัวนั้น จะเป็นไปได้หรือไม่…แล้วในเมืองไทยเองล่ะ การชำระเงินในรูปแบบนี้จะมีมาให้เห็นอย่างแพร่หลายกันหรือไม่ คุณคิดว่าอย่างไรครับ…
ที่มา: eMarketer ภาพจาก: technorati