Mozilla ต้นสังกัดเว็บเบราว์เซอร์ Firefox ประกาศจบโครงการทดสอบระบบโฆษณาบน Firefox อย่างเป็นทางการ เพื่อหันไปให้ความสำคัญกับการแสดงคอนเทนต์ที่ดีกว่าบนเบราว์เซอร์ โดยยอมรับว่าธุรกิจโฆษณายังไม่เหมาะกับ Firefox ในขณะนี้
Mozilla ระบุว่าจะเริ่มต้นทดลองการแสดงผลคอนเทนต์หลากรูปแบบบนหน้าแท็บใหม่ของ Firefox และบริการอื่นในเครือ โดยจะหยุดการลงโฆษณาผ่านช่อง Tiles ซึ่งเคยเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้ Firefox ถูกมองว่ากำลังเดินตาม Google เพราะ Firefox จะแสดงโฆษณาตาม browsing history หรือประวัติการท่องเว็บไซต์ของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้ Firefox Beta ได้เห็นโฆษณาในพื้นที่ซึ่งถูกเรียกว่า “Suggested tiles” ไอคอนสี่เหลี่ยมที่จะแสดงเมื่อผู้ใช้เปิดหน้าต่างหรือ tab ใหม่
การทดสอบนี้เกิดขึ้นหลังจากโครงการเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ครั้งนั้น Tiles ถูกแบ่งประเภทเนื้อหาออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ คอนเทนต์ประกาศจาก Mozilla เอง (เช่น ประกาศนโยบายใช้งานหรือแคมเปญของมูลนิธิ), คอนเทนต์จากสำนักข่าวหรือ publisher content และคอนเทนต์โฆษณา โดยแนวคิดการทดสอบโครงการนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก Mozilla ต้องการให้ผู้ใช้ได้เห็นคอนเทนต์น่าสนใจ แทนที่จะเห็นหน้าเปล่าเมื่อเปิดหน้าต่างใหม่บน Firefox
จุดนี้ทำให้ Mozilla ระบุว่าจะยังคงโครงการทดสอบระบบ Tiles ลักษณะนี้ต่อไป เพียงแต่จะไม่มีเนื้อหากลุ่มโฆษณาอย่างที่เคยทำมา ทั้งหมดนี้ Mozilla แถลงว่าแม้ธุรกิจโฆษณาบน Firefox จะสามารถทำเงินรายได้มหาศาล แต่นี่อาจยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากมูลนิธิต้องการให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์หลักแก่ผู้ใช้ ดังนั้น Mozilla จึงต้องการทบทวนรูปแบบการแสดงเนื้อหาและการค้นหาเนื้อหาบนบริการของ Mozilla อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม Mozilla แสดงความเชื่อมั่นว่าอีโคซิสเต็มของวงการโฆษณาโลกยังต้องมีการพัฒนาต่อไป โดยเชื่อว่าสิ่งที่ Mozilla ได้ทดสอบมาหลายเดือนนั้นสามารถแสดงให้เห็นการยกระดับระบบโฆษณาเหล่านี้ ทั้งหมดนี้ Mozilla จะยังคงเดินหน้าหาวิธีสร้างสมดุลย์ระหว่างอีโคซิสเต็มวงการโฆษณาและประโยชน์ของผู้ใช้ทุกคนให้ดียิ่งขึ้น
Mozilla นั้นเป็นองค์กรที่ประกาศตัวเป็น nonprofit หรือองค์กรไม่หวังผลกำไร แต่การหารายได้ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำเพื่อหล่อเลี้ยง Mozilla ให้ยืนหยัดได้ต่อไป เบื้องต้น Mozilla ขอบคุณพันธมิตรที่ให้ความร่วมมือจนการทดสอบระบบโฆษณานี้ดำเนินได้ด้วยดี โดยระบุเพียงว่าการทดสอบนี้จะสิ้นสุดลงในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้
ที่มา : VentureBeat