สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Netflix สามารถล่อใจให้นักเขียนบล็อกช่วยโฆษณาภาพยนตร์ใหม่ ‘Cloverfield Paradox’ ฟรีได้สำเร็จ ด้วยการยิงโฆษณาระหว่างการแข่งขัน Super Bowl ที่พลิกประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ กลายเป็นกระแสร้อนที่โลกโซเชียลพูดถึงในชั่วข้ามคืน แต่น่าเสียดายที่ตัวภาพยนตร์ถูกวิจารณ์ยับเยิน ว่าเป็น “Just Another Bad Netflix Movie”
โฆษณาที่พลิกวงการภาพยนตร์อเมริกันของ Netflix นั้นประกาศเนื้อหาตื่นตะลึง 3 ประเด็น ประเด็นแรกคือการแจ้งข่าวว่ามีภาพยนตร์ Cloverfield ใหม่แล้ว (นะ) ประเด็นที่ 2 คือ Cloverfield เวอร์ชันใหม่จะมีให้บริการเฉพาะบน Netflix เท่านั้น และประเด็นที่ 3 คือเริ่มฉายเลยหลังจบเกม
ผลคือแฟนฟุตบอลหลายล้านคนที่เฝ้าดูเกม Super Bowl ตื่นตะลึงทั้งประเทศ สื่ออเมริกันเชื่อว่าทุกคนที่ติดตาม Super Bowl จะต้องสังเกตเห็น และในที่สุดก็จะคลิกดูหนังสยองขวัญไซ-ไฟเรื่องนี้ กระแสร้อนทำให้ Netflix ถูกยกย่องว่าสามารถใช้สปอตโฆษณา Super Bowl ที่มีมูลค่า 5 ล้านเหรียญได้อย่างคุ้มค่า ทำประโยชน์ทั้งสร้างแบรนด์และดึงลูกค้าเข้าสู่บริการได้ทันทีแบบที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน เนื่องจากตัวอย่างภาพยนตร์ที่ฉายใน Super Bowl นั้นมักต้องรอเวลาเข้าโรงฉาย แต่กรณีของ Netflix นั้นชมได้เลย
กระแสนี้ทำให้นักเขียนบล็อกประกาศข่าวด้วยความตื่นเต้น ทำให้ภาพยนตร์ทุนสร้าง 40 ล้านเหรียญถูกโฆษณาฟรีแบบไฟลามทุ่ง โดยยกให้ Cloverfield Paradox เป็น Game Changer หรือตัวเปลี่ยนเกมที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ภาพยนตร์เรื่องอื่น เมินโรงฉายแล้วทำเงินบน Netflix แทน
ไม่ว่ากระแสนี้จะร้อนแรงเพียงไร สื่ออเมริกันต่างวิจารณ์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีมิติสอดแทรกนอกจากความเป็นไซ-ไฟตามหน้าหนัง โดยสื่อที่พากหัวร้อนแรงที่สุดต้องยกให้ Forbes ที่จวกยับว่า ’Cloverfield Paradox’ Is No Game Changer; It’s Just Another Bad Netflix Movie
แต่เรื่องรสนิยมนั้นนานาจิตตัง เพราะ Netflix มั่นใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกใจผู้ชมไม่มากก็น้อย แถมการลงทุนครั้งนี้คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ต้องปรบมือให้ทีมการตลาดของ Netflix ดังๆ
ที่มา: Forbes