Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งชื่อดังระดับโลก เตรียมให้ผู้ผลิตเชื่อมโยงระหว่างวิดีโอเกมเข้าไปในคอนเทนต์ซีรีส์ เนื่องจากประสบปัญหาด้านการเติบโตของสมาชิกเก่าและใหม่ ถึงแม้ผู้คนจะอยู่บ้านมากขึ้น จากการแพร่ระบาด แต่ก็มีผู้เล่นใหม่ในตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้หุ้นของบริษัทอยู่ที่ 531.10 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ด้วยปัญหาการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของลูกค้าใหม่ หลังจากที่มีการเติบโตอย่างมากในปี 2020 จากคำสั่งให้อยู่บ้านเพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 โดยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา Netflix ต้องเสียรายได้จากสมาชิกประมาณ 430,000 รายในไตรมาสสองที่ผ่านมา แม้ว่าเน็ตฟลิกซ์จะอยู่ในช่วงของการคุยข้อเสนอกับบริษัทเกม ที่จะให้สมาชิกใช้งานได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยจะเน้นไปที่ผู้ให้บริการเกมบนมือถือเป็นหลัก
ผู้บุกเบิกวิดีโอสตรีมมิ่งกล่าวว่ากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายข้อเสนอวิดีโอเกมซึ่งจะให้บริการแก่สมาชิกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บริษัทจะเน้นไปที่เกมบนมือถือเป็นหลัก
เกร็ก ปีเตอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Netflix กล่าวในส่วนหนึ่งของจดหมายชี้แจงให้แก่ผู้ถือหุ้นว่า เรามองว่าเนื้อหาเกมเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ใหม่สำหรับเราที่จะขยายไปสู่คอนเทนต์ที่หลากหลายขึ้นอย่าง แอนิเมชั่น รายการทีวีแบบเดิมและรายการทีวีที่ไม่มีสคริปต์ แม้ว่าเราจะมีความพยายามเล็กๆ มาหลายปี แต่ก็เชื่อมั่นว่าลูกค้ายังต้องการเกมที่พวกเขามีส่วนร่วมได้มากกว่านี้
ซึ่งเราจะเห็นความพยายามของเน็ตฟลิกซ์ในการทำคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับวีดีโอเกมอย่างซีรีส์ “Stranger Things” และ “The Dark Crystal: Age of Resistance”
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่เน็ตฟลิกซ์พยายามดิ้นรนในการดึงดูดสมาชิกให้อยู่กับแพลตฟอร์มต่อรวมทั้งค้นหาสมาชิกใหม่ เพื่อเป็นทางรอดของธุรกิจ จากข้อมูลของ eMarketer ระบุว่า ส่วนแบ่งรายได้ของ Netflix ในสหรัฐฯ จากการสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งวิดีโอ จะลดลงเหลือ 30.8% ภายในสิ้นปี 2564 จากเกือบ 50% ในปี 2561
เจสซี่ โคเฮน นักวิเคราะห์อาวุโสของ Investing.com กล่าวว่า เน็ตฟลิกซ์กำลังอยู่ในช่วงของการแข่งขันแย่งส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อนแรง หากไม่มีตัวเร่งมาช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตย่อมเป็นเรื่องยากที่เน็ตฟลิกซ์จะอยู่รอดได้
ทั้งนี้ การลงทุนในเรื่องของเกม ก็คล้ายกับการลงทุนเรื่องอื่นๆ อย่าง พอดแคสต์หรืออีคอมเมิร์ซ ที่เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะช่วยรักษาลูกค้าให้เข้าใช้งานบริการหลัก
ทางเน็ตฟลิกซ์เองคาดว่า การเข้าสู่ธุรกิจเกมจะช่วยให้พวกเขามีลูกค้าเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านราย ในเดือนกรกฏาคม-กันยายน ส่วนนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่ม 5.5 ล้านคน โดยในไตรมาสที่ 2 นี้เน็ตฟลิกซ์ทำลูกค้าใหม่เพิ่มได้เพียง 1.54 ล้านราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.04 ล้านราย สมาชิกทั้งหมดมีจำนวน 209 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องมีการปรับรายการทีวีใหม่ เพราะเจอผลกระทบในการผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ ของเหล่าผู้ผลิต รวมทั้งการเข้ามาสู่ตลาดสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ของ Walt Disney Co, HBO Max ของ AT&T Inc รวมทั้งภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ช่วงฤดูร้อนก็กลับมาที่โรงภาพยนตร์อีกครั้ง มาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวทำให้รายได้สำหรับเดือนเมษายนถึงมิถุนายนอยู่ที่ 2.97 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์โดยเฉลี่ยที่ 3.16 ดอลลาร์ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการความปลอดภัยในการแพร่ระบาดยังดึงดูดผู้คนให้ออกจากบ้านและอยู่ห่างจากโทรทัศน์
ทาง Netflix เองจึงพยายามที่จะผลักดันคอนเทนต์ซีซั่นใหม่อย่าง “You”, “Money Heist” และ “The Witcher”