Netflix นับจำนวนผู้ใช้งานต่างประเทศมากถึง 9 ล้านแต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วอาจมีผู้สมัครใช้งานต่างชาติมากกว่านั้น ซึ่งอาจแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใช้ภายในสหรัฐอเมริกาที่มียอดผู้ใช้พุ่งขึ้นสูงเกือบแตะ 30 ล้านคนแล้ว
หลังเปิดให้บริการประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาในปี 2010 ทั้ง ประเทศแคนาดา สหราชอาณาจักร ประเทศแถบละตินอเมริกา กลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวียน และประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ Netflix ยังไม่ได้เปิดให้บริการในประเทศออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ แม้จะเป็นประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ เศรษฐกิจดีน่าลงทุนมากสำหรับ Netflix ก็ตาม
สาเหตุที่ Netflix ไม่ได้เปิดให้บริการในประเทศออสเตรเลียเพราะบริการดังกล่าวโดนบล็อคโดยผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่ดูแลโดย News Corp ที่เป็นผู้นำเข้ารายการโทรทัศน์ และ คอนเทนต์ต่างๆจากสหรัฐอเมริกา ไม่ให้ Netflix ให้เปิดบริการ ด้วยความที่ Netflix นั้นคิดค่าบริการถูกกวานั่นเอง
แต่แม้จะโดนบล็อคก็ตาม ความพยายามของชาวออสเตรเลียก็ไม่ได้ลดลงเลย โดยพวกเขาได้ใช้โปรแกรมปลอม IP Address ของพวกเขาให้เหมือนว่าเขาเป็นผู้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งแม้ว่าจะผิดกฏหมายก็ตาม แต่ถ้าเทียบกับค่าบริการ Digital Content ในประเทศออสเตรเลียที่แพงกว่าในสหรัฐพวกเขาคงต้องยอม เพราะเมื่อปีก่อนมีรายงานออกมาว่าชาวออสเตรเลียนั้นเสียค่าใช้จ่ายในการดาว์นโหลดเพลงบน iTunes มากกว่าชาวอเมริกันถึง 52% ซึ่งทางยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงความต่าง
โดยทาง Paywell หนังสือพิมพ์หัวหนึ่งในออสเตรเลียได้รายงานว่าชาวออสเตรเลียกว่า 20,000 คนได้ปลอม IP Address ของตัวเองเพื่อสมัครใช้งาน Netflix ซึ่งจริงๆตัวเลขผู้ใช้ชาวออสเตรเลียอาจจะมากถึง 50,000 เสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามทาง Netflix ก็ได้พยายามก้าวผ่านปัญหาทางด้านคอนเทนต์ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นของตัวพวกเขาเอง แต่ดูเหมือนว่าคงไม่ใช่ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวออสเตรเลียเท่าไหร่ที่จะจ่ายเพียงเพื่อได้รับบริการอย่างจำกัด ฉะนั้นการลักลอบทั้งจากประเทศออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ ภายใต้การปลอม IP Address เสมือนเป็นผู้อาศัยในสหรัฐอเมริกาจึงยังคงดำเนินต่อไป
สำหรับประเทศไทย Netflix ยังไม่ได้เข้ามาเปิดให้บริการเช่นกัน ถ้า Netflix เข้ามาคิดว่าคุณจะใช้บริการมั้ยคะ?
ที่มา Quartz