หลังจากที่ ผู้บริหารคนเก่งอย่าง “อริยะ พนมยงค์” ย้ายไปนั่งที่ช่อง 3 แน่นอนว่าหลายคนจับตามองว่าใครจะมานั่งแทนที่ สำหรับผู้บริหารใหญ่ประจำประเทศไทย แน่นอนว่ายังไม่ได้มีผู้บริหารคนไทยที่เข้าตา และได้มานั่งตำแหน่งนี้ โดยช่วงนี้ได้ให้ “อึนจอง ลี” รองประธานฝ่ายบริหารธุรกิจ LINE Global Corporation ควบตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย ไปก่อน และประเดิมงานแรกกับการฉลองความสำเร็จของ LINE MAN หลังเปิดบริการนี้มากว่า 3 ปี

บริการเพื่อคนไทย

สำหรับธุรกิจ Delivery นั้น ต้องยอมรับว่า มีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก ซึ่งผู้เล่น 3 รายใหญ่อย่าง GRAB, GET และ LINE MAN ที่ต่างก็แย่งส่วนแบ่งตลาดนี้กันอย่างดุเดือด ทำให้หลายคนจับตามองว่าใครจะได้มาครองตลาดนี้

อึนจอง ลี รองประธานฝ่ายบริหารธุรกิจ LINE Global Corporation และรักษาการกรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า LINE MAN เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยความคิดของคนไทย จากความเข้าใจคนไทย เพื่อคนไทย ให้ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในชีวิต ประจำวันของผู้บริโภค ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และมีการเติบโตสูงมากในเวลาเพียงแค่ 3 ปี

ทั้งนี้ LINE MAN เป็นการให้บริการแบบ On-demand ครอบคลุม 5 บริการ: ส่งอาหาร, แมสเซนเจอร์, ส่งพัสดุ, เรียกแท็กซี่ และบริการซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อ มีตัวเลขการเติบโตสูงกว่า 300% ด้วยจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 3 ล้านคน จำนวนร้านอาหารในระบบกว่า 4.7 หมื่นร้านค้า 

ทางด้านของจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 3 ล้านแอคทีฟ/เดือน และเติบโต 3 เท่าทุกปี และปีนี้ก็อยากโตกว่าเดิม ด้านบริการที่คนนิยม อันดับแรกคือ อาหารกับแท็กซี่ มียอดใกล้ๆ กัน ทั้งนี้ บริษัทต้องการทำให้ทุกบริการตอบโจทย์เป้าหมายของบริษัทมากกว่าเรื่องของผลกำไร

โดยช่วงเวลาที่คนสั่งอาหารเยอะที่สุด คือ ช่วงพักเที่ยงกับตอนเย็นหลังเลิกงาน และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ส่วนเมนูอาหารที่คนนิยม คือ ชานมไข่มุกและกลุ่มสตรีทฟู้ดอย่าง ก๋วยเตี๋ยว อาหารจานเดียวและของว่าง

ทางด้านของค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า ยังคงเป็นปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญ ซึ่งทางบริษัทมั่นใจว่าราคาที่แสดงนั้นโปร่งใสและไม่ได้บวกเพิ่มไปกับเมนูอาหาร โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 55 บาท จากนั้นจะคิดเพิ่ม 7.2 บาท/กม. สำหรับช่วงที่จัดโปรโมชั่นเริ่มต้นค่าส่งที่ 29 บาทนั้น มีร้านค้าที่เข้าร่วมกว่า 1,000 ร้านค้าแต่ต้องอยู่ในพื้นที่ไม่เกิน 6 กม.

ซึ่งการที่มีผู้ใช้งานต่อเนื่องทุกเดือนแบบไม่ได้รอใช้งานแค่ช่วงที่มีส่วนลด ถือว่าเป็นความท้าทายและมั่นใจว่าลูกค้าเชื่อมั่นในบริการของเราต่อไป โดยสามารถแทนที่คำว่า “Messenger” ไปได้แล้ว ซึ่งเราจะพยายามปั้นภาพลักษณ์ของตัวเองให้เป็น “Top of Choice” ซึ่งยิ่งกว่าคำว่า “Top of Mind” แล้ว

นอกจากนี้ ยังวางแผนจะขยายบริการไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าท้องถิ่นมากที่สุด แต่ปัญหาสำคัญ คือ เรื่องของจำนวนคนขับกับร้านอาหารที่ยังมีจำนวนไม่ครอบคลุม

กลยุทธ์เน้นพาร์ทเนอร์

ทางด้านของ กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยส่งมอบบริการให้กับลูกค้าของ LINE MAN  คือการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Wongnai, เอไอเอส (AIS), บลูม ฟลาวเวอร์, ช้อปปี้ (Shopee), ช้อปแบก (Shopback), ลาลามูฟ, แรบบิท ไลน์ เพย์,  โรงพยาบาลสมิติเวช,สมาร์ท โดยบริษัท เอ.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และไปรษณีย์ไทย 

โดยมั่นใจว่าการมี ecosystem ที่แข็งแรงและครอบคลุมจะช่วยให้การให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การสั่งสินค้า การส่ง และการชำระเงิน ด้วยแนวคิดในการสร้างบริการที่เป็น ผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง เข้ามาช่วยแก้ pain point ของผู้คน และช่วยให้ชีวิตของผู้คนง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

อัดโปรโมชั่นฉลองครบรอบ

สำหรับโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 3 ปี LINE MAN ได้จัดชุดใหญ่ส่งแคมเปญเด็ดคืนกำไร “30 SUPER DEALS” ที่จะมอบดีลสุดพิเศษ 30 วัน 30 ดีล ด้วยเมนูพิเศษ ส่วนลดพิเศษ และค่าบริการสุดพิเศษ ตลอดเดือนมิถุนายน และพิเศษสุดกับการมอบประสบการณ์แบบเอ็กคลูซีฟด้วยการจับมือกับ 10 แบรนด์ดัง ได้แก่  After You, คั่วกลิ้ง ผักสด, GussDumnGood, ชานมไข่มุก Fire Tiger, ราชา คอหมูย่าง, Ginza Gyoza, Kouen, นิตยา, ปูดองอันยอง, และAudrey สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษเฉพาะเมื่อสั่งอาหารผ่าน LINE MAN ตลอดเดือนมิถุนายนนี้