มีข่าวคราวออกมาตลอดตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ถึงการปรับฟีเจอร์และค่าบริการของ LINE Official Account (เดิมชื่อ LINE@) ที่ทีมงาน Thumbsup ได้นำเสนอไปแล้วนั้น วันนี้ (8 พฤษภาคม 2562) ทาง LINE ประเทศไทยก็ได้ฤกษ์ชี้แจงถึงฟีเจอร์และค่าบริการต่างๆ ให้ได้ทราบอย่างเป็นทางการ บอกได้เลยว่างานนี้ SME ต้องปรับตัวรับโอกาสใหม่ให้ทัน เพราะเขาอัดแน่นเครื่องมือและค่าบริการพร้อมๆ กัน
คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและสื่อโฆษณา (Commercial Director) LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา LINE ได้ประกาศรวม LINE@ เข้ากับ LINE Official Account เพื่อให้ผู้ใช้งาน LINE@ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบแอคเคาท์ของตัวเองได้
และจะทยอยโอนย้ายแอคเคาท์ใน LINE@ ทั้งหมดมาเป็นรูปแบบใหม่นี้ภายในเดือนกันยายน 2562 ส่วนผู้สมัครใช้งานใหม่ หลัง 16 เมษายน 2562 จะปรับเป็น LINE Official Account ทันที
ฟีเจอร์ใหม่ครบวงจรกว่าเดิม
ทางด้านของเครื่องมือสื่อสารที่สามารถใช้งานได้นั้น ประกอบด้วย
1. ผู้ใช้งานสามารถสร้างศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจรผ่าน LINE ได้เอง ภายในช่องทางเดียว ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและข้อมูลติดต่อทั้งหมดของแบรนด์คุณได้เอง และลิ้งไปยังโซเชียลมีเดียอื่นๆ ได้ด้วย
2. ระบบจัดการลูกค้าจะฉลาดขึ้น ช่วยปิดการขายได้ดีกว่าเดิม (ลูกค้าคนไหนจ่ายช้า แท็คลิสต์คนเหล่านั้นและตามเรื่องต่อได้แบบเฉพาะกลุ่ม) คัดกรองลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ดีกว่าเดิม แบรนด์ที่มีสาขาจำนวนมากสามารถสร้างแอคเคาท์เฉพาะพื้นที่หรือกลุ่มส่วนตัวเพื่อการบริหารจัดการได้ดีขึ้น รวมทั้งบริหารจัดการข้อมูลให้ตรงกับธุรกิจของคุณได้ดีขึ้น
3. เปิด API ให้เชื่อมต่อกับ LINE ได้อย่างอิสระ เพิ่มโอกาสให้นักพัฒนาสร้างสรรค์รูปแบบบริการได้ตามต้องการ เพราะแต่ละธุรกิจต้องการเครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกในการสื่อสารต่างกัน สำหรับการเชื่อมระบบการทำงาน บริหารจัดการต่างๆ เช่น ระบบ CRM, Sale, Logistics, Finance นำไปเชื่อมต่อใช้งานได้เลย แต่ถ้าหากแบรนด์ต้องการที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้ แต่ทำไม่เป็น สามารถติดต่อเอเจนซี่ที่ดูแลบริการนี้ได้ (ลิ้งเอเจนซี่)
ข่าวดีสำหรับแม่ค้าออนไลน์
นอกจากนี้ ช่วงไตรมาสที่ 3-4 จะมีฟีเจอร์ช้อปปิ้งเพิ่มเติมขึ้นมาสำหรับธุรกิจที่ใช้บริการ LINE Official Account และต้องการที่จะให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้เลย โดยสามารถสั่งสินค้า จ่ายเงินและส่งสินค้าผ่านบริการ Rabbit LINE Pay และ LINE MAN ได้เลย หรือถ้ามีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านการเงินและขนส่ง รายอื่นอยู่ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ด้วย LINE ไม่ปิดกั้น
ทำไมต้องปรับระบบใหม่
เมื่อถามถึงเหตุผลในการปรับโฉมบริการใหม่ในครั้งนี้ ทางคุณนรสิทธิ์เล่าว่า มีแบรนด์ส่งข้อความ Broadcast ต่อวันมากถึง 60 ข้อความ ถือว่าเยอะมากเกินความจำเป็นและรบกวนผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งการปรับระบบครั้งนี้จะช่วยคัดกรองข้อมูลให้ผู้ใช้งานมากขึ้น ลดปัญหาการบล็อกและเพิ่มคุณค่าให้แบรนด์มากขึ้น
ทางด้านจำนวนของผู้ใช้งานทั้งหมดมีผู้ใช้ LINE@ เดิมมากถึง 2.7 ล้านราย ส่วน LINE Official Account มีเพียง 300 ราย ทางบริษัทคาดหวังว่าสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้ LINE Official Account (ที่รวมเข้ากับ LINE@ แล้ว) มากเพิ่มขึ้น 2 เท่า
ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ใช้งาน LINE@ แบ่งเป็น กลุ่มแฟชั่น 20-30% กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ทั้งแบบมีหน้าร้านและสั่งออนไลน์ 15% กลุ่มความสวยความงาม แบบบริการและผลิตภัณฑ์ 15% ที่เหลือจะคละกัน ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า อุปกรณ์กีฬาและแก๊ดเจ๊ต เป็นต้น
นอกจากนี้ จากเดิมที่จะจำกัดการโพสต์ข้อความบน Timeline ก็จะสามารถโพสต์ได้แบบ Unlimited ซึ่งไม่ได้มีข้อมูลการโพสต์บน Timeline ที่ชัดเจนมากนัก แต่มีตัวอย่างจากจำนวนประชากรในญี่ปุ่น 100 ล้านคน ทราฟิกในการโพสต์บน Timeline ของคนไทยจำนวนใกล้เคียงกับการโพสต์ที่ญี่ปุ่นเลย
ทางออกของพับบลิชเชอร์
ส่วนกลุ่ม Publisher ที่เคยใช้งาน LINE@ เดิมในการสื่อสารกับผู้ติดตามนั้น ทาง LINE อยากให้ย้ายไปใช้บริการ LINE IDOL ที่จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามได้ดีกว่า และช่วยให้ผู้ที่สนใจได้รับข่าวสารจาก Publisher ได้เต็มที่กว่า ซึ่งการใช้งาน LINE IDOL นี้จะไม่ทับซ้อนกับ LINE TODAY ที่เป็นฟีดข่าวประจำวันแบบทั่วไป
เทียบราคา LINE Official Account กับ LINE@
เนื่องจากแพ็คเกจ LINE@ มี 5 แพ็คเกจ และ LINE Official Account มีเพียง 3 แพ็คเกจ เราจึงเทียบแพ็คเกจที่ชื่อเหมือนกัน เพื่อให้เห็นความแตกต่างโดยคร่าว สามารถดูข้อมูลแบบละเอียดได้จาก LINE ประเทศไทย