จากการเปิดตัว Amazon Go ที่แสนจะฮือฮา กับการเป็นร้านค้าที่ไม่ต้องมีแคชเชียร์ ผู้บริโภคสามารถเข้ามาหยิบสินค้าที่ต้องการจากชั้นวางและออกจากร้านไปได้เลย โดยเซนเซอร์ต่าง ๆ และเทคโนโลยี Deep Learning จะเป็นตัวคิดคำนวณเองว่าสินค้าที่เราหยิบ และนำกลับบ้านด้วยนั้นมีมูลค่าเท่าไร ได้กลายเป็น Talk of The Town จนมีหลายค่ายเปิดตัวร้านสะดวกซื้อของตนเองที่ทำงานด้วยเทคโนโลยีคล้าย ๆ กันนั้น ล่าสุดถึงคิวของห้างยักษ์ใหญ่อย่าง Tesco ที่อาจเป็นรายต่อไปที่จะลงมาเล่นในตลาดนี้แล้ว
โดยผู้ที่ออกมาให้ข่าวคือซีอีโอของ Tesco เองอย่าง Dave Lewis ที่ตอบคำถามนักข่าวว่า บริษัทมีการทดลองหลายอย่างรวมถึงเทคโนโลยีที่ว่านี้ด้วย (Self-Checkout) เพียงแต่ซีอีโอ Tesco บอกด้วยว่า บริษัทจะไม่ออกมาบอกสื่อว่ากำลังทำอะไรอยู่จนกว่าจะสามารถนำมาปรับใช้ได้กับองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม
แน่นอนว่าถ้าไม่ปรับตัวตั้งแต่ในตอนนี้ก็อาจจะสายเกินไป เพราะหันมาดูทางฟากเอเชีย จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมามีบริษัทผู้ให้บริการร้านสะดวกซื้อในหลายประเทศเริ่มพัฒนาระบบคิดเงินด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น 7-eleven ในเกาหลีใต้ ที่สร้างเครื่องคิดเงินแบบใหม่ให้สามารถสแกนสินค้าได้แบบ 360 องศา หรือร้าน Lawson ในญี่ปุ่นที่ร่วมกับ Panasonicเปิดตัวระบบแคชเชียร์อัตโนมัติที่สามารถคิดเงินสินค้าที่อยู่ในตะกร้าและบรรจุถุงให้เองได้
หรือก่อนหน้านี้ก็มี Hema (อ่านว่าเหอหม่า) ซูเปอร์มาร์เก็ตของ Alibaba ที่มาพร้อมแนวคิดของการเป็นห้างค้าปลีกแห่งอนาคตที่ออกมาเรียกเสียงฮือฮาได้เช่นกัน โดยในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่ที่ผู้บริโภคเข้ามาจับจ่ายใช้สอยได้แล้ว ในกรณีอาหารสด ก็สามารถสั่งให้ซูเปอร์มาร์เก็ตปรุงและนั่งรับประทานภายในร้านได้เลย
จุดเด่นของ Hema คือ กิจกรรมทั้งหมดของลูกค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นเกิดขึ้นผ่านแอปพลิเคชันชื่อ Hema ที่เชื่อมโยงข้อมูลกับแอปพลิเคชัน Alipay ของบริษัทนั่นเอง ซึ่ง Alibaba มองว่า โมเดลนี้สามารถช่วยธุรกิจค้าปลีกรายอื่น ๆ ให้ทรานสฟอร์มสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างสะดวกมากขึ้นด้วย
ส่วนใครที่สั่งสินค้าของ Hema ผ่านทางออนไลน์ก็ทำได้เช่นกัน โดยในแต่ละวัน Hema ระบุว่ามียอดออเดอร์ออนไลน์สูงกว่า 1,000 ออเดอร์ และ Hema ก็รับประกันว่าสามารถส่งได้ภายใน 30 นาทีด้วย
Alibaba ยังบอกด้วยว่า ยอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตแนวใหม่นี้เพิ่มสูงกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิม 3 – 5 เท่า โดยพบว่า ผู้บริโภคมีการสั่งซื้อเฉลี่ย 4.5 ครั้งต่อเดือน และ 50 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว
แน่นอนว่า Alibaba คิดใหญ่ไม่แพ้ Amazon โดยเฉพาะในแนวทางของห้าง Hema นี้ Alibaba ตั้งเป้าว่าจะใช้เป็นห้องทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับสร้างประสบการณ์ Online – Offline ด้วย
ตอนนี้จึงอยู่ที่ว่า Tesco จะปล่อยให้ค้าปลีกยุคใหม่เข้ามาบุกตลาดมากขึ้น หรือจะปล่อยหมัดเด็ดของตนเองออกไปสักทีเป็นการแก้เกม