เป็นที่ทราบกันดีในโลกของวงการโฆษณาว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากยุคของโทรทัศน์กลายเป็นยุคดิจิทัลไปแล้ว แม้ว่าโทรทัศน์จะยังคงทำเงินได้ดี แต่แรงผลักดันในการสร้างสรรค์ไอเดียลงบนโฆษณาดิจิทัลนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และมีการแข่งขันสูง ดังนั้น สิ่งที่นักโฆษณาในยุคดิจิทัลให้ความสำคัญคือจะทำอย่างไรให้โฆษณาของเขาเป็นที่สนใจ และผลักดันให้ไปถึงผู้ชมได้มากที่สุดและมีประสิทธิภาพ
และนี่เป็นสามรูปแบบใหม่ของโมเดลเอเจนซี่ในการทำโฆษณาดิจิทัล :
1. แหล่งผลิตไวรัลวีดีโอ
ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ว่าวิดีโอที่ทำขึ้นมานั้นจะเป็น Viral ที่มีประสิทธิภาพได้หรือไม่ หากไม่ “ลองดู”
Thinkmodo บริการที่รับสร้างแคมเปญสู่ไวรัลวิดีโอให้กับแบรนด์ต่างๆ จากนิวยอร์คนี้ ประสบความสำเร็จในการทำ Viral เป็นอย่างดี เห็นได้จาก ads ที่พวกเขาทำไม่ว่าจะเป็น “Bubba’s Hovercraft“, “Flying People“, และล่าสุด “Devil Baby” ต่างก็มีผู้รับชมนับล้านครั้งด้วยกันทั้งนั้น แม้จะมีพนักงานเพียงแค่สามคนแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Thinkmodo เลย
โดย James Percelay ผู้ก่อตั้งร่วม และอดีตนักเขียนจาก Saturday Night Live กล่าวว่า ความท้าทายในการสร้างกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จอยู่ที่เราจะพัฒนาอย่างไรให้ผู้ชมซึ่งมีหลายรูปแบบสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ เปรียบเสมือนแต่ละคนต้องใส่หมวกที่หลากหลาย และต้องสวมใส่มันได้อย่างพอดี การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะสำหรับนักทำโฆษณาที่ดีนั้นจะต้องใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงสุดท้ายของโปรเจค ซึ่งมีไม่กี่เอเจนซี่ที่ทำตรงนี้ได้ดี
และอีกหนึ่งเอเจนซี่ที่รับสร้างไวรัลวิดีโอ คือ Contagious จากลอสแอนเจลิส ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยมีพนักงาน 20 คน แต่ทางบริษัทไม่เพียงแค่รับทำไวรัลวิดีโอเท่านั้น พวกเขายังช่วยโปรโมตแคมเปญอีกด้วย ผลงานที่ผ่านมาคือโฆษณา “Kobe vs. Messi” ของสายการบิน Turkish Airline นั่นเอง มีผู้ชมรับชมถึง 100 ล้านครั้งเลยทีเดียว มีการแชร์ต่อไปยัง Facebook และ Twitter อย่างล้นหลามเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว
Tim Staples ผู้ก่อตั้งร่วมเผยเคล็ดลับว่า จะต้องหว่าน ads ไปยังแหล่งกำเนิดต่างๆ ถึง 8 พันแหล่ง เช่น บล็อกเกอร์ YouTube และสื่อที่เน้นเนื้อหาไปทางด้าน Viral Marketing รวมถึง Mashable นี้ด้วย ในบรรดาคลิปวิดีโอที่บริษัทจัดทำขึ้นมา มี 70 จาก 140 วิดีโอ ที่มีผู้ชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง Staples ยังได้เสริมอีกว่า สิ่งสำคัญในการทำให้มีผู้แชร์มากๆ คือการ “การผลักดัน” วิดีโอไปสู่สาธารณะ ซึ่งจำเป็นมากกว่าการมีเนื้อหาที่ดีเสียอีก
2. GIFs หรือภาพเคลื่อนไหว
อีกสื่อหนึ่งที่เสริมการโฆษณาให้เกิดขึ้นได้ คือ GIFs หรือประเภทไฟล์ภาพเคลื่อนไหว นำมาใช้ในการโฆษณาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งใหม่อะไรในยุคดิจิตอลนี้ ตัวอย่างเห็นได้จาก Cinegif บริการทำโฆษณาในรูปแบบ GIFs จากบริษัท McFarland ในรัฐเท็กซัส แต่ละ ads เริ่มต้นราคา 95 เหรียญสหรัฐฯ แต่เฉลี่ยแล้วอยู่ระหว่าง 300 – 400 เหรียญสหรัฐฯ Cinegif แสดงผลงานของพวกเขาว่าจะมีผู้คลิกชม ads มากกว่าแบนเนอร์ถึง 500% และ 100% มากกว่าโฆษณาแบบ Flash นอกจากนี้ GIFs สามารถเปิดดูในอุปกรณ์ iOS ได้ ไม่เหมือนกับ Flash ad นี่เป็นประสิทธิภาพของ GIFs ที่หลายคนคาดไม่ถึง
3. อินเทอร์เน็ตคือทุกสิ่ง
โลกของการโฆษณาในปัจจุบันถูกเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์หลายชนิด Evrythng บริการโปรโมตสินค้าจากเกาะอังกฤษ ใช้หลักการ “Make products smart” ช่วยจัดการโปรโมตสินค้าไปยังช่องทางที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้มีผู้บริโภคเข้ามามากขึ้น เพราะสินค้าหรือบริการใดๆ ต้องมีดิจิตอลโปรไฟล์ โดยบริษัทช่วยโปรโมตสินค้าและบริการเหล่านี้ไปยังผู้บริโภคออนไลน์ ทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
ที่มา: Mashable