Site icon Thumbsup

ยืนยัน Blockchain คือผู้ปฏิวัติโฆษณารายต่อไป

Ian McKee จาก Spikes Asia คือกูรูโฆษณารายล่าสุดที่ตอกย้ำว่า Blockchain จะปฏิวัติวงการโฆษณา หากแบรนด์ใดโหนกระแส Blockchain ไม่ทันก็จะมีความเสี่ยงถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เนื่องจาก Blockchain นี่เองที่จะเปลี่ยนโฉมวงการโฆษณามากกว่าที่สื่อสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ตเคยทำไว้เป็น 100 เท่า

Ian McKee นั้นเป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้ก่อตั้ง Vocanic ก่อนจะขายให้ WPP เมื่อ 3 ปีก่อน ล่าสุดเจ้าพ่อ Spikes Asia ออกมาเผยความมั่นใจบนเวทีงานประชุม Spikes Asia 2017 ว่า Blockchain จะทำให้วงการโฆษณาเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Blockchain สามารถตัดคนกลางในการซื้อขายโฆษณาได้

“เมื่อเทียบกับที่สื่อสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ตทำให้วงการโฆษณาเปลี่ยนไป Blockchain จะยิ่งเปลี่ยนแปลงมากกว่า 100 เท่า ผมค่อนข้างแน่ใจว่าบริษัทในวงการโฆษณา 8 ใน 10 จะไม่หนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไป”

McKee บอกว่าการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี blockchain นั้นขยายผลได้ไกลกว่าวงการเงินดิจิทัลหรือ cryptocurrency และจะพลิกโฉมรูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคของแบรนด์ แนวโน้มนี้เห็นได้ชัดเมื่อเรามองย้อนกลับมาในชีวิต แล้วพบว่าวันนี้เราต้องใช้บริการของบริษัทหรือองค์กรมากมายเพื่อลดภาระความรับผิดชอบในงานที่ไม่สะดวก ความพิเศษของ Blockchain เรื่องความสามารถ “ตัดพ่อค้าคนกลาง” ออกไป จึงจะทำให้ Blockchain มีบทบาทมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรมในอนาคต

McKee ย้ำว่าวงการโฆษณาก็ไม่ต่างกัน เห็นชัดจาก Brave เบราว์เซอร์ใหม่ที่พัฒนาโดย Brendan Eich ผู้สร้าง JavaScript และ Mozilla สิ่งที่ Brave ทำคือการใช้กระบวนการโฆษณาดิจิทัลบนเทคโนโลยี Blockchain โดยใช้สกุลเงินคือ Basic Attention Token ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้ว่า จะให้โอกาสผู้ลงโฆษณาส่งโฆษณาแก่พวกเขาเมื่อใด รวมถึงผู้ใช้จะสามารถเลือกรับเงินจากผู้ลงโฆษณา เพื่อแลกกับการชมโฆษณาก็ได้

กรณีหลังนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เรามักไม่ค่อยได้เห็นกัน นั่นคือโลกที่นักโฆษณาจะหันมาจ่ายเงินให้กับผู้ชมโฆษณานั้นแทน จุดนี้ McKee มองว่า Programmatic ธรรมดาดั้งเดิมอาจจะหมดยุค เพราะพฤติกรรมของ User จะเป็นตัวกำหนดว่าผู้ลงโฆษณาจะได้รับอนุญาตให้ส่งโฆษณาไปยังผู้ใช้หรือไม่

วันนี้ หลายบริษัทจึงเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการเอกลักษณ์ด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้แบรนด์ ผู้เผยแพร่โฆษณา และชาวออนไลน์ทั่วไป สามารถควบคุมการเก็บข้อมูลออนไลน์ของตัวเอง หนึ่งในนั้นคือบริษัทชื่อ Datum ที่กำลังพยายามพัฒนาระบบให้ผู้ใช้สามารถทำเงิน จากผู้ลงโฆษณาที่จะจ่ายเงินให้หากต้องการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว

เหนืออื่นใด McKee ยอมรับว่าแม้กระบวนการ Blockchain เหล่านี้จะยัง “ไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้” แต่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแน่นอน อย่างน้อยก็ในช่วง 5 ปีนับจากนี้

ที่มา: CampaignAsia