เอจีบี นีลเส็น ประเทศไทย เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงมกราคมถึงกันยายนปี 2020 หดตัวลง-16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วโดยมูลค่าอยู่ที่ 76,591 ล้านบาท ซึ่งสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 59% ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในเดือนกันยายนยังคงลดลง –10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในปี 2020 นี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมหลักใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลงจากปีที่แล้ว โดย 4 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 12,104 ล้านบาท ลดลง -10% รองลงมาคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 10,741 ล้านบาท ลดลง -3% ลำดับที่ 3 คือกลุ่ม Media & Marketing มูลค่า 9,054 ล้านบาท ลดลง -7% และลำดับที่ 4 คือกลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 4,591 ล้านบาท ลดลง -34%
ขณะที่กลุ่มยา (Pharmaceuticals) มูลค่า4,086 ล้านบาท และ กลุ่มสินค้าครัวเรือนในบ้าน (Household products) มูลค่า 3,209 ล้านบาท ใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +7% และ +15% ตามลำดับ
ในส่วนของบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดของเดือนมกราคมถึงกันยายนปี 2020 โดย 3 ลำดับแรกได้แก่
บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 3,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +35%โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมาคือ ใหม่ วาสลีน ซุปเปอร์ วิตามิน ทางสื่อทีวีมูลค่า 38 ล้านบาท รองลงมาคือใหม่ โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ทางสื่อทีวีมูลค่า 31 ล้านบาท
บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 1,966 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +38% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมาคือ ใหม่ นมตราหมี ทริปเปิ้ล โปร ทางสื่อทีวีมูลค่า 32ล้านบาท รองลงมาคือไมโล กีฬาคือครูชีวิต ทางสื่อทีวีมูลค่า 22 ล้านบาท
บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,596 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว -19% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือ ดาวน์นี่ เอสเซนเชียลออยล์ทางสื่อทีวีมูลค่า 23 ล้านบาทรองลงมาคือใหม่ รีจอยส์ สูตรผมยาว ดูเรียบลื่น ทางสื่อทีวีมูลค่า 22 ล้านบาท