Nike บริษัทผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาหนึ่งในแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปี 2020 พบว่ายอดขายออนไลน์โต 75% สวนทางกับยอดขายโดยรวมที่ลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
บริษัทระบุถึงสาเหตุหลักที่ทำให้ผลประกอบการย่ำแย่ คือการปิดหน้าร้านสาขาของ Nike และร้านค้าพาร์ทเนอร์ในช่วงล็อกดาวน์
แม้ว่ายอดขายในช่องทางออนไลน์จะเติบโตกว่า 75% เนื่องจากลูกค้าหันไปจับจ่ายผ่านเว็บไซต์ของ Nike และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากขึ้น แต่สัดส่วนของยอดขายออนไลน์คิดเป็นเพียง 30% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งไม่สามารถชดเชยยอดขายที่หายไปได้
ผลประกอบการทั้งหมดลดลง 38% เหลือ 6.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 10.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ยอดขายในอเมริกาเหนือลดลงถึง 46% ขณะที่ยอดขายในจีนลดลงเพียง 3% ซึ่งสาเหตุมาจากการล็อกดาวน์ที่ยาวนาน
ในส่วนของยอดขายรองเท้าลดลงไปมากถึง 35% ขณะที่เครื่องแต่งกายลดลง 42% และยอดขายอุปกรณ์กีฬาลดลงไปมากถึง 53% และยอดการจัดส่งสินค้าลดลง 50% ซึ่งเป็นผลมาจากผู้คนเล่นกีฬาน้อยลง เนื่องจากต้องกักตัวอยู่ภายในบ้าน
ปรับเป้าหมายตาม New Normal
บริษัทได้ตั้งเป้าหมายว่าจะพยายามผลักดันให้ยอดขายออนไลน์ของบริษัทคิดเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมด เพื่อกระจายความเสี่ยงตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ ร้านสาขาของไนกี้ทั่วโลกมากกว่า 90% ได้กลับมาเปิดให้บริการแล้ว สำหรับร้านสาขาในสหรัฐจะกลับมาเปิด 85% ในเดือนนี้ ส่วนประเทศจีนกลับมาเปิดบริการได้ 100% แล้ว
