Site icon Thumbsup

อ่านวิสัยทัศน์หัวเรือใหญ่ Marlboro ที่นำยาสูบเข้าสู่สังเวียน blockchain


แม้แต่ยักษ์ใหญ่วงการยาสูบอย่าง Philip Morris ยังหมุนหัวเรือไปที่ธุรกิจ blockchain ความเคลื่อนไหวนี้ถูกเปิดเผยโดย Nitin Manoharan ผู้บริหารคนเก่งที่ยืนยันว่าบริษัทแม่อย่าง Philip Morris International กำลังจะพัฒนา “public blockchain” ที่คาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าภาษีซ้ำซ้อนได้มากกว่า 20 ล้านเหรียญต่อปี

ความเคลื่อนไหวของ Philip Morris International เจ้าของแบรนด์อย่าง Marlboro และอีกหลายแบรนด์ในดวงใจสิงห์อมควันนั้นตอกย้ำว่า วันนี้หลายธุรกิจออกเรือสู่มหาสมุทร blockchain แทบทุกอุตสาหกรรม ทั้งภาคการผลิตที่นำ blockchain มาใช้ยืนยันความแท้ของวัตถุดิบในสายพานการผลิต หรือภาคงานบริการที่นำ blockchain มาช่วยเรื่องการจัดการสัญญา ล่าสุดคือ Philip Morris International ซึ่งเป็นบริษัทยาสูบที่มองไปที่ blockchain เช่นกัน

Nitin Manoharan หัวหน้าฝ่ายสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลกของ Philip Morris กล่าวในงานอีเวนต์ที่ลอนดอน London Blockchain Expo ว่าบริษัทต้องการพัฒนา “บล็อกสาธารณะ” หรือ public blockchains ที่หลายคนยังกังขาว่าคืออะไร

แสตมป์ภาษีอัจฉริยะ

ไม่ว่า public blockchains จะหมายความว่าอย่างไร แต่วิสัยทัศน์ของ Nitin Manoharan ในมุมผู้บริหารบริษัทยาสูบมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐนั้นถือว่าน่าสนใจมาก เพราะ Nitin เป็นผู้นำในการจุดประกายให้ Philip Morris หันมาใช้ blockchain เพื่อติดตามแสตมป์ภาษีหรือ tax stamps ที่พิมพ์บนกล่องบุหรี่

tax stamps เหล่านี้คือสติกเกอร์พิมพ์บนกระดาษที่บ่งบอกว่าบุหรี่ซองนั้นได้ชำระภาษีแล้ว Philip Morris จึงคิดจะยกเลิกระบบตราประทับยุคเก่าแบบอะนาล็อกที่ช้า และจะแทนที่ด้วยการทำธุรกรรมแบบดิจิทัลบน blockchain ที่ระบุว่าเป็น “digital public ledger” แบบสาธารณะที่เปิดให้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตสามารถเข้าถึงได้

ด้วยวิธีนี้ Philip Morris จะสามารถประหยัดได้มากถึง 20 ล้านเหรียญต่อปี ซึ่งจะช่วยให้ยักษ์ใหญ่วงการยาสูบสามารถยืดอายุได้ในยุคนี้ที่คนหันไปสูบ “บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์” มากขึ้น

การปรับตัวของ Philip Morris เกิดขึ้นหลังจากที่ Altria บริษัทยาสูบที่แยกตัวออกจาก Philip Morris ในปี 2008 ได้ซื้อหุ้น 35% ในบริษัท Juul ผู้ผลิตบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์หรือ e-cigarette เมื่อปีที่แล้ว

จนล่าสุด Philip Morris เริ่มหันมาเสนอประกันชีวิตให้กับผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ ทั้งหมดนี้ถูกมองว่าเป็นการปรับตัวเพราะชาวโลกบริโภคยาสูบลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทยาสูบจำเป็นต้องค้นหารายได้ใหม่ หรือลดค่าใช้จ่ายลงเพื่อให้สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้

จุดยืนที่ Nitin บอกใบ้คือ blockchain นั้นจะนำไปสู่การพัฒนาอื่นอีกหลายด้าน โดย Manoharan กล่าวว่า tax stamps นั้นเป็น 1 ใน 6 ประเด็นเทคโนโลยีซึ่งบริษัทสามารถใช้ประโยชน์ได้จากเทคโนโลยีใหม่ที่เป็น buzzword ระดับโลก พร้อมกับย้ำว่าโครงการนำร่องอีกหลายส่วนจะเริ่มดำเนินการภายในปีหน้า

ศิษย์เก่า Oxford

ในขณะที่โลกรอดูว่าการปรากฏตัวของ Philip Morris ในวงการ blockchain จะทำให้เกิดอิมแพคอย่างไร หลายคนหยิบคำพูดของศิษย์เก่า Oxford อย่าง Nitin Manoharan มาวิเคราะห์ เพราะแนวคิดของเขาสะท้อนวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างเรื่องการควบคุม blockchain

ผู้บริหารรายนี้มองว่าคุณค่าที่แท้จริงของ blockchain ก็คือการปิดกั้นที่ยังเปิดกว้างให้สามารถมีผู้เล่นหลายคนเข้ามาและมีส่วนร่วมได้เสรี โดยย้ำว่ากระแสความทะเยอทะยานของธุรกิจเพื่อพัฒนา blockchain ทั่วทุกอุตสาหกรรมนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะทุกคนที่มีส่วนได้เสียที่สนใจ สามารถเข้ามาสมัครและได้รับประโยชน์จาก blockchain ได้ ซึ่งหากใครไม่เห็นคุณค่า ก็สามารถเดินจากไปได้แบบไม่มีใครว่า

น่าเสียดายที่ข้อมูลของ Nitin Manoharan มีน้อยมาก ผู้บริหารหนุ่มรายนี้ปัจจุบันพำนักที่ Lausanne, Vaud ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จบการศึกษาปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ (MBA) จากมหาวิทยาลัย University of Chicago Booth School of Business

หลังจากศึกษาด้านการจัดการและเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย University of Oxford ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Nitin ได้รับวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ. ) ที่มหาวิทยาลัย Bharathiar University ในอินเดีย

นอกจาก London Blockchain Expo ยังเดินสายเป็นวิทยากรในงานประชุมด้าน blockchain อีกหลายงาน หนึ่งในนั้นคือ Blockchain Summit Frankfurt ซึ่งคาดว่าจะมีอีกหลายงานตามมาในอนาคต.

ที่มา: : FastCompany