วันนี้ (16 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงจาก ศบค. ทำเนียบรัฐบาล กรณีการยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่
โดยมีใจความว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องปรับมาตรการตามความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัคซีน การฉีดวัคซีน การบริหารการแพร่ระบาด การตรวจสอบคัดกรอง
นายกฯ กล่าวต่อว่าเราไม่เคยหยุดยั้งการทำงาน ขอขอบคุณคณะทำงาน ศบค.ในช่วงที่ผ่านมา และกล่าวยืนยันจะไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว ไม่มีการล็อกดาวน์ พร้อมย้ำว่าประเทศไทยต้องชนะ
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการแถลง นายกรัฐมนตรีประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ยืนยันได้เลยว่าไม่มีเคอร์ฟิว ไม่มีการล็อกดาวน์”
ในเวลาต่อมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกเป็น 2 ระดับ คือ
- ระดับที่ 1 พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น
- ระดับที่ 2 พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จำนวน 59 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อุบลราชธานี สระบุรี สุราษฎร์ธานี นครสวรรค์ ชุมพร พิษณุโลก นครศรีธรรมราช นราธิวาศ ราชบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ ลพบุรี มหาสารคาม ตราด ชัยภูมิ อ่างทอง สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุทัยธานี นครนายก สมุทรสงคราม ศรีสะเกษ แม่ฮ่องสอน ยะลา ชัยนาท สิงห์บุรี ลำพูน เพชรบูรณ์ กระบี่ ลำปาง กำแพงเพชร สุโขทัย พะเยา หนองคาย เลย พิจิตร ระนอง ร้อยเอ็ด สกลนคร พังงา ยโสธร ปัตตานี แพร่ ตรัง อุตรดิตถ์ น่าน อำนาจเจริญ นครพนม บึงกาฬ พัทลุง กาฬสินธุ์ สตูล และ มุกดาหาร
ยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรค อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ปิดสถานบันเทิง ผับ,บาร์,อาบ อบนวด ทุกจังหวัด
- ร้านอาหาร นั่งรับประทานในร้านได้ งดจำหน่ายและงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพื้นที่สีแดงเปิดไม่เกินเวลา 21.00 น. สีส้มเปิดไม่เกิน 23.00 น.
- งดกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มกันเกิน 50 คน กรณีที่จำเป็นให้ขออนุญาตต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
- งดกิจกรรมงานเลี้ยง สังสรรค์ ยกเว้นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน
- งดการเรียนการสอนในห้องเรียน
- ปิดสวนสนุกและงดเล่นเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า
- ขอความร่วมมือภาคเอกชน Work from Home ให้มากที่สุด
- เข้มมาตรการองค์กร DMHTT คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนไทยชนะ/ หมอชนะ แยกกันรับประทานอาหาร