หลังจากที่เราเคยได้ยินข่าวการปิดให้บริการวิทยุในระบบ FM ของประเทศนอร์เวย์กันมาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ตอนนี้อาจเรียกได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ทางการนอร์เวย์จะเริ่มดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้ โดยคลื่นวิทยุในเมืองแรกที่จะถูกปิดตัวลงคือเมือง Bodo และมีกำหนดก็คือ 11 มกราคมนี้ ขณะที่เมืองอื่นๆ ของประเทศจะค่อยๆ ทยอยปิดตัวลงตามลำดับจนหมดก่อนสิ้นปี 2017
โดยการตัดสินใจครั้งนี้ได้ทำให้ชื่อของนอร์เวย์ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของโลกในฐานะประเทศแรกที่ตัดสินใจปิดบริการถ่ายทอดสัญญาณวิทยุในระบบ FM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนากันมาตั้งแต่ปี 1933 และทางการนอร์เวย์จะปรับเข้าสู่การถ่ายทอดสัญญาณในระบบดิจิทัล (DAB) ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้
สำหรับไอเดียในการปิดวิทยุระบบ FM เริ่มมีขึ้นในนอร์เวย์ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งรายงานจากรอยเตอร์ระบุว่า มีประชากรในประเทศถึง 66 เปอร์เซ็นต์ที่ต่อต้านแนวคิดนี้เนื่องจากมองว่าจะทำให้เครือข่ายวิทยุที่มีมากลายเป็นสิ่งสูญเปล่า รวมถึงเครื่องรับสัญญาณวิทยุกว่า 15 ล้านเครื่องที่จะไม่สามารถใช้งานได้ โดยผู้เห็นด้วยกับการปรับเข้าสู่โหมดดิจิทัลมีเพียง 17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่ามันเป็นเทรนด์ เหมือนเช่นที่เราปรับเข้าสู่ดิจิทัลทีวี ซึ่งทำให้ภาพและเสียงคมชัดมากขึ้น วิทยุดิจิทัลก็เช่นกัน ซึ่งตัวเลขของการปรับเข้าสู่ดิจิทัลทีวีนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก แต่สำหรับวิทยุดิจิทัลแล้วต้องบอกว่าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ามาก และไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองนอร์เวย์ที่อยากปรับเข้าสู่ระบบดังกล่าว แต่สวิสเซอร์แลนด์และเดนมาร์กก็แสดงความสนใจด้วย
ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับข้อเสียที่ว่า ประชาชนชาวนอร์เวย์ต้องไปหาซื้อวิทยุดิจิทัลเครื่องใหม่แล้ว บางทีภาพรวมทั้งหมดอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ชาวนอร์เวย์คิดก็เป็นได้