บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้เครือ บริษัท เอ็นทีที เดต้า คอร์ปอเรชัน จำกัด ชี้หลายองค์กรกำลังติดกับดักพัฒนา Loyalty Program แนะใช้เทคโนโลยี Blockchain ลดกระบวนการซับซ้อน และต้นทุนการดำเนินงาน ยกระดับความปลอดภัยขั้นสูง ผูกใจผู้บริโภคไว้กับแบรนด์อย่างยั่งยืน
ฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Loyalty Program ที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ และลูกค้าอย่างยั่งยืน กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของแบรนด์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจนนำไปสู่การสร้าง ความจงรักภัคดีต่อแบรนด์ และต่อยอดทางการตลาด
จากรายงาน Global Loyalty Programs Market Intelligence Report 2022 ในไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่าตลาด Loyalty Program มีแนวโน้มเติบโต 12.6% และมีมูลค่า 142,636.8 ล้านเหรียญสหรัฐในสิ้นปี 2022 และคาดการณ์ว่าตลาดทั่วโลกจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ปีละ 12.2% ในช่วงปี 2022-2026 โดยจะมีมูลค่าถึง 225,907.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2026
ทั้งนี้ เอ็นทีที เดต้า ได้พัฒนา Blockchain Ecosystem อย่างกว้างขวางเพื่อผสานการทำงานระหว่าง ธุรกิจ เทคโนโลยี และความปลอดภัย พร้อมา Loyalty Program ที่สามารถผสานระบบ Back-end จากหลายพันธมิตร ในหลายอุตสาหกรรม ด้วยการเชื่อมต่อบล็อกเชนผ่านระบบ API ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบ Loyalty Program ผ่านแพลทฟอร์มที่ลงทะเบียนไว้ และสามารถสะสม และใช้งานคะแนนจากพันธมิตรที่หลากหลายได้ผ่านแพลทฟอร์มเดียว
“จากประสบการณ์การให้บริการ Loyalty Program กับองค์กรทั่วโลก พบว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะมองเห็นถึงความสำคัญของการนำ Loyalty Program เข้ามาให้บริการลูกค้า แต่หลายองค์กรยังมีข้อจำกัดด้านการพัฒนาระบบให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากความซับซ้อนในขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วม Loyalty Program ทำให้ผู้ใช้งานยกเลิกการเข้าร่วมระบบสมาชิก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีพันธมิตร และคู่ค้าที่หลากหลาย ทำให้ไม่สามารถรับรู้ถึงที่มาของข้อมูล และธุรกรรมของข้อมูล”
เอ็นทีที เดต้า มองว่า หนทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวนำไปสู่การพัฒนา Blockchain Ecosystem เพื่อช่วยในการรวมศูนย์ และสามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคผ่านแพลทฟอร์มเดียว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดต้นทุนการจัดการระบบด้วย Smart Contract ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย สามารถติดตามการรับส่งข้อมูลภายใต้ Blockchain Ecosystem เดียวกัน โดยสามารตรวจสอบเวลาเข้าใช้งานข้อมูลในทุก ๆ ธุรกรรม ป้องกันข้อมูลซ้ำซ้อน การฉ้อโกง และการละเมิดที่อาจเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน การพัฒนา Loyalty Program ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจนนำไปสู่การสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์อย่างยั่งยืน ผ่านแพลทฟอร์มที่เป็น Key Touchpoint ในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค ช่วยให้พันธมิตร และคู่ค้าที่อยู่ภายใต้ Blockchain Ecosystem เดียวกัน สามารถวิเคราะห์ และทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า สามารถต่อยอดพัฒนาสินค้า และบริการได้อย่างตรงจุด และเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์โดยรวม