อาจเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาที่ช่วยให้วงการ VR (Virtual Reality) เติบโตกลายเป็นสื่อด้านดิจิทัลได้อย่างเต็มภาคภูมิ กับการเปิดตัว Everest VR ซึ่งเป็นระบบซิมูเลชั่นจำลองการไต่เขาเอเวอร์เรสออกมาให้ใช้งานกันบนอุปกรณ์ “Oculus Rift”
โดยประสบการณ์ที่ผู้สวมแว่นจะได้รับผ่าน Everest VR นั้นประกอบด้วยห้าส่วน ได้แก่ บรรยากาศ ณ Basecamp, การเดินทางสู่น้ำตกน้ำแข็ง Khumbu, การไต่หน้าผายามค่ำคืนสู่แคมป์ 4, เส้นทางอันตราย Hillary Step และสุดท้ายกับบรรยากาศในการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ที่นักไต่เขาทุกคนหวังจะได้สัมผัส
ทางสตูดิโอผู้สร้างเผยด้วยว่า ทั้ง 5 ประสบการณ์ที่นำมาเสนอนั้นถือเป็นหัวใจหลักของการไต่เขาเอเวอร์เรสเลยทีเดียว
ที่สำคัญ การพัฒนาสื่อ VR สถานที่สำคัญ ๆ ของโลกออกมาอย่างต่อเนื่องถือเป็นการช่วยให้ผู้ที่ขาดโอกาสด้านกำลังทรัพย์ (แน่นอนว่าไปปีนเขาเอเวอร์เรสต์นั้นใช้เงินค่อนข้างสูง) หรือร่างกายไม่แข็งแรงได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศบนยอดเขาที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลกได้ด้วย
โดย Everest VR นั้น นอกจากจะใช้ได้กับ Oculus Rift แล้ว ยังเคยมีการเปิดตัวบน HTC Vive มาก่อนแล้วเช่นกัน และสามารถหาซื้อมาเล่นกันได้ในราคา 14.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 525 บาทเท่านั้น
นอกจากในสหรัฐอเมริกาแล้ว ออสเตรเลียก็มีการดึงเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาสร้างความแปลกใหม่ให้กับโบราณสถานเช่นกัน โดยเป็นผลงานของสตาร์ทอัปของออสเตรเลียที่ต้องการสร้างภาพจำลองของโบราณสถานขึ้นมาใหม่ให้นักท่องเที่ยว หรือนักเรียนได้รับชมบรรยากาศผ่านแว่น VR นั่นเอง
ที่มา: DigitalTrend