การทำ Digital PR เหมือนกับการจีบสาว การไปพูดย้ำๆ ว่าเราเป็นคนดี มันก็นานกว่าจะเกิดความเชื่อใจ แต่ถ้ามีเพื่อนสักคนไปบอกว่าเราเป็นคนดี ความเชื่อนั้นก็จะเกิดขึ้นง่ายกว่าเดิม ดังนั้นงานของ PR ก็คือทำอย่างไรก็ได้ให้บุคคลที่ 3 ไปพูดให้สาวที่เราชื่นชอบว่าเราคือคนดี เราจึงต้องทำ Owned Media (สื่อของตัวเอง) ให้ดีที่สุด เพื่อทำให้เกิด Earned Media (สื่ออื่นๆ ที่พูดถึงเรา) สุดท้ายแล้วเราก็จะ Paid น้อยลง เพราะมีกลุ่มแฟนที่ดีแล้วนั่นเอง
5 สิ่งที่ PR ควรทำในยุคดิจิทัล
1.PR ควรยอมรับว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยน ก่อนที่จะให้ใครมาเปลี่ยน
2. เข้าใจว่า PR กับ Technology คือเพื่อนกัน จงใช้ Technology วัดผล PR ด้วย Business Result ไม่ใช่ Vanity Metrics
3. ลองสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง และสร้างวัฒนธรรมองค์กรว่า “ทำผิดได้” เพื่อเปิดโอกาสให้คนได้ Trial & Error
4. Connection & Network ยังเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ต้องมี Digital Approach
5. “ทำ” เลย ไม่ต้องรอ “Trend”
นอกจากนั้นยังต้องให้ความสำคัญกับการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อปั้นให้งาน PR ประสบความสำเร็จด้วย
How-to ใช้เครื่องมือปั้นงาน PR
1.ให้เพื่อนแท็กเพื่อน
คนชอบแฮชแท็กชื่อเพื่อน เพราะต้องการให้เพื่อนเข้ามาดู (Advocacy) สิ่งที่ควรทำต่อคือส่งข้อมูลไปหาคนเหล่านี้เลย เพราะเค้าไดัรับการคัดกรองแล้วว่าสนใจข้อมูลของเรา
2. ส่องโซเชียลมีเดียให้เกิดผล
Influencer เกิดขึ้นเยอะมาก ดังนั้น ต้องเลือก Influencer ที่มี objective ด้านฟีดแบ็คกับผู้ติดตามที่มีคุณภาพ
3. Pantip ก็ช่วยเรื่อง Awareness แบรนด์ได้
คอมเมนต์ใน Pantip เป็นอีกโซเชียลมีเดียที่ไม่ควรมองข้าม และปรับปรุงคุณภาพให้ตรงใจได้ดีขึ้น
4. Twitter ไม่ใช่ช่องทางสำหรับกระแสติ่งเท่านั้น
ค่าเฉลี่ยคนใช้งาน Twitter ทำให้เกิดปริมาณดาต้า 8-10 ล้านข้อความ/วัน ทำให้เกิดกระแสได้ไวมาก และเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อเกิด Crisis
5. Facebook มีทั้งให้คุณและโทษ
ถึงคุณจะโพสต์ใน Facebook ได้ แต่ไม่ reach แสดงว่าไม่ได้ผลสำเร็จแบบ 100%
6. Objective สำคัญเสมอ
หากทำแล้วไม่สำเร็จ ลองกลับไปปรับ Objective ใหม่ ควรเลือกดู Feedback เชิงคุณภาพให้มากขึ้น จะได้รู้ว่าสิ่งไหนควรทำต่อ
7. ลงทุน ROO อย่างเหมาะสม
ROO หรือ Return on objective เป็นการใช้งบสำหรับสื่อสาร เพื่อได้ตาม objective กลับมา และต้องดู Message ที่เราสื่อสารออกไปด้วย
8. มองคุณค่าสื่อมากกว่ามูลค่าเงินลงทุน
ไม่ว่าจะสื่อเดิมหรือสื่อใหม่ ต่างก็มี Target ต้องเข้าใจใน Feedback ที่จะได้รับกลับมานั้นมีความต่างกัน
ในสุดท้ายการทำกลยุทธ์ PR ต้องคิดให้ครอบคลุมทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง นั้นจะส่งผลต่อแบรนด์ในระยะยาวอย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก: งานสัมมนา Public RelationSHIFT