อาจไม่ใช่เรื่องใหม่กับการที่ธุรกิจค้าปลีกหันมามีช่องทางเข้าถึงลูกค้าของตนเองในแบบดิจิทัล ต้องยอมรับว่าการลงทุนด้านอีคอมเมิร์ซ ออมนิแชนแนล และการเตรียมระบบออนไลน์ต่างๆ ให้รองรับการใช้งานของลูกค้าขาประจำไม่ใช่เรื่องง่าย และค้าปลีกยักษ์ใหญ่ที่มีการลงทุนระบบเหล่านี้มาก่อน ก็เพิ่งจะเห็นผลจากการลงทุนในระยะเวลาเพียงไม่นาน
การก้าวเข้ามาสู่ช่องทางดิจิทัลของสยามพิวรรธน์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต้องลงทุน เพราะ “สยาม” ไม่ได้เป็นแหล่งของวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นศูนย์รวมในการจับจ่ายสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักช้อปไฮเอนด์ และนักช้อปทั่วไป ให้เข้าถึงได้แบบไม่สะดุด
ดึงมือฉมังวงการไอทีมาเสริมทัพ
แม้สยามพิวรรธน์ จะปูเส้นทางให้คนรู้จัก “สยามพิวรรธน์” ภายใต้ฝีมือการบริหารของ ชฎาทิพ จูตระกูล เจ้าของหลักของสยามพิวรรธน์ที่สืบทอดกิจการรุ่นสองมานานกว่า 60 ปี แต่เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของเทคโนโลยีและดิจิทัลก็จำเป็นต้องดึงตัวคนเก่งมาช่วยเป็นมือหลักในการเดินหน้าธุรกิจเข้าสู่โลกยุคใหม่
อริยะ – เอเซล – ปานเทพย์ สามทหารเสือด้านเทคโนโลยีที่ “สยามพิวรรธน์” คาดหวังว่าพวกเขาจะมาช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ครั้งนี้
หากกล่าวถึงประวัติ 3 คนนี้สั้นๆ ต้องบอกว่า อริยะ คือหนึ่งในผู้ปลุกปั้น Google และ LINE ให้ขึ้นมายืนหนึ่งด้านบริษัทเทคโนโลยีที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุด
เอเซล ก็เป็นอีกหนึ่ง CTO ของบริษัทในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป ที่มีฝีมือเรื่องการดูแลและพัฒนาระบบไอที พร้อมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี อินโนเวชั่น อีคอมเมิร์ซและมาร์เก็ตเพลส อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ เซ็นทรัลออนไลน์ ออฟฟิศเมท ท็อปส์และพาวเวอร์บาย
ส่วนปานเทพย์ เป็นหนึ่งในทีมบริหารด้านคอนเทนต์และดิจิทัล รวมทั้งเคยดูแลบริการเพย์สบายของดีแทค ในการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นมาอย่างยาวนาน
การดึงสามทหารเสือมาช่วยบริหารระบบอีโคซิสเต็มให้สยามพิวรรธน์นี้ หลักๆ ก็คาดหวังไปในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในไทยที่มีจำนวนกว่า 7 ล้านคน เพราะคนกลุ่มนี้ต้องการที่จะเข้าถึงสินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียมและลักชัวรี่ ซึ่งระบบของวันสยามก็คือการเชื่อมต่อของแพลตฟอร์ม Content, Loyalty, Digital Assets ที่มีกว่า 1,000 แบรนด์ทั้งไทยและทั่วโลก
คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากในการทำธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้ระบบนิเวศธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดโอกาสในการเชื่อมโยงระบบดิจิทัลซึ่งกันและกัน ดังนั้นธุรกิจค้าปลีกไม่จำเป็นต้องวางกรอบตัวเอง อยู่ในอุตสาหกรรมเดิมอีกต่อไป
แต่สามารถสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ จากการเชื่อมต่อกับพันธมิตร อีกทั้งผสานฐานลูกค้าให้มีการบริหารจัดการที่จะส่งประโยชน์สูงสุดพร้อมมอบหลากหลายประสบการณ์บนแพลตฟอร์มเดียวให้ลูกค้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
สยามพิวรรธน์มองเห็นโอกาสนี้และได้เริ่มพัฒนาระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกที่จะเชื่อมคู่ค้าพันธมิตรจากทั่วโลก (Global Ecosystem) ให้เติบโตร่วมกันบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดนี้ มาจากหลักในการดำเนินธุรกิจของสยามพิวรรธน์ที่ยึดมั่นในการ Share Values และ Co-creation เพื่อให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าร่วมกันอย่างยั่งยืน
สยามพิวรรธน์ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้สนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจของบรรดาร้านค้าใน 4 ศูนย์การค้า รวมถึงพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เราได้เชิญมาร่วมใน
Global Ecosystem นี้
สยามพิวรรธน์ถือเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่รายในโลกและเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ลงทุนสร้างแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการต่อยอดจากวิสัยทัศน์ขององค์กร และพันธมิตรใน Global Ecosystem ที่จะช่วยกันรังสรรค์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายในโลกดิจิทัลบนแพลตฟอร์มเดียวที่จะรวบรวมลูกค้าของพันธมิตรทุกรายเข้ามาเป็นสมาชิก และบริหารประสบการณ์แบบ Customer Centric อย่างลงลึก
เพื่อให้แพลตฟอร์มนี้เข้าใจพฤติกรรม และเข้าถึงความต้องการของลูกค้า สามารถสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่เหนือระดับ พร้อมมอบคุณค่าทางด้านจิตใจและตอบสนองการบริโภคทุกมิติ รวมถึงให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด
ONESIAM ซูเปอร์แอปพลิเคชันใหม่ จะเปิดรับสมาชิกในวันที่ 9 ธันวาคม โดยทุกคนสามารถสมัครได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และเป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอสินค้าและบริการที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถันให้กับลูกค้าบนความสนใจเฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยี A.I. ที่จะเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้า พร้อมด้วย Hyper Personalized Marketing ที่จะวิเคราะห์ และคาดการณ์การรับข่าวสารและซื้อสินค้าครั้งหน้าของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้บริหารจัดการสินค้าและบริการทุกประเภทได้ดีขึ้น รวมทั้งสร้างแคมเปญให้ตรงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการเชื่อมประสบการณ์โลกคู่ขนาน online/offline ให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาประสบการณ์แบบคนรู้ใจ
โดย ONESIAM SuperApp จะรวมความพิเศษอันหลากหลายผ่าน 4 จักรวาลแห่งประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย ดังนี้
- จักรวาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย (Universe of Shopping Experiences) : การผนึกแบรนด์ระดับพรีเมียมและลักชัวรีอีกกว่า 1,000 แบรนด์ ในต้นปี 2022 ที่ตอบรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ONESIAM SuperApp โดยมีแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่ได้ตอบรับการเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มในรูปแบบการขายสินค้า การทำ Content ที่น่า ตื่นตาตื่นใจ การทำ Loyalty Platform ซึ่งสยามพิวรรธน์เชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังกับร้านค้าเข้าสู่ระบบนิเวศธุรกิจ พรีเมียมระดับโลกจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่พร้อมกับสิทธิประโยชน์ในรูปแบบที่แปลกใหม่ คุ้มค่า และเกินความคาดหมายอีกครั้ง นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังได้พัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มลักชัวรีโดยเฉพาะ คือ การเปิดหน้าพิเศษสำหรับลักชัวรีแบรนด์แยกออกมา ทั้งในส่วนของคอนเทนต์ สินค้า และบริการ
- จักรวาลแห่งการเชื่อมโยงคอมมูนิตี้ (Universe of Co-Created Communities) : การผนึกความร่วมมือกับผู้นำความคิด คนรุ่นใหม่ พันธมิตร ร้านค้า คู่ค้า มาร่วมสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์แพลตฟอร์ม ให้ได้รู้ก่อนใคร นำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายตามความสนใจของลูกค้า เพื่อเชื่อมโยงและสร้างการมีส่วนร่วม พร้อมมอบแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้าของสยามพิวรรธน์ ทั้งในเรื่องของเทรนด์ล้ำโลกต่าง ๆ โดยมีคอนเทนต์มากกว่า 3,000 คอนเทนต์ในแต่ละเดือน จาก 5 คอมมูนิตี้หลัก ได้แก่ Style: แฟชั่น เครื่องประดับ / Glow : สุขภาพ ความสุขสมบูรณ์ ความงาม เครื่องบำรุงผิว / Feast หรือ การเฉลิมฉลอง: อาหาร เครื่องดื่ม การสังสรรค์ / Travel หรือการแสวงหา : การท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ดีไซน์ และ Fun หรือกิจกรรมยามว่าง : กีฬา เกมส์ แกดเจ็ต
- จักรวาลแห่งระบบรีวอร์ดที่ไร้ขีดจำกัด (Universe of Infinite Rewards) : การผนึกร้านค้า พันธมิตรปฏิวัติระบบ Loyalty Program แบบใหม่ ใช้ VIZ COIN ที่ 1 เหรียญ มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท ยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้า ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการภายในศูนย์การค้าและบนช่องทางออนไลน์ อีกทั้งได้ร่วมมือกับ Loyalty Program ของพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนคะแนนสะสมในบัตรเครดิตธนาคาร หรือบัตรสมาชิกต่างๆ เป็น VIZ COIN เพื่อใช้ซื้อสินค้าได้คุ้มค่าและสะดวกสบายขึ้น ยิ่งช้อปยิ่งสะสม VIZ COIN แล้วนำมาใช้ต่อ ได้ทันที รวมถึงสร้างให้ ONESIAM SuperApp เป็น Earn & Burn Destination กับร้านค้าและพันธมิตรใน Global Ecosystem
- จักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด (Universe of Unlimited Experiences) : ในต้นปี 2022 สมาชิกจะ สามารถใช้ ONESIAM SuperApp ในการทำธุรกรรมดิจิทัลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับ “สินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Assets) และดิจิทัลยูทิลิตี้ (Digital Utility) เพิ่มเติมจาก Loyalty Program โดยในช่วงแรกนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นมากกว่ารีเทลระดับโลกในรูปแบบ “งานศิลปะดิจิทัล NFT” ด้วยการเปิดตัว ความร่วมมือกับ KASIKORN X หรือ KX เป็นพันธมิตรแรก ในการก่อตั้ง Coral – Super Simple NFT Marketplace (CORALWORLD.CO) เพื่อเป็นการสนับสนุน ผลักดัน ต่อยอด งานศิลปะ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ทั้งออนไลน์และ ออฟไลน์ ของศิลปินไทยและภูมิภาคในประเทศไทยและไปสู่ระดับโลก และการร่วมมือกับ Zipmex ในการแลกซื้อคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Zipmex Token (ZMT) ก่อนพัฒนาสู่ช่วงที่สอง ซึ่งทางสยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำอาทิเช่น X Spring (เอ็กซ์สปริง) และ เจ เวนเจอร์ส เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรภายในปีหน้า นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมขยายศักยภาพการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงบน Metaverse ด้วยการจับมือกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เชื่อมต่อประโยชน์อันหลากหลายไว้ในที่เดียว และจะมีการพัฒนาธุรกิจและกิจกรรมดิจิทัลเรื่องอื่น ๆ บน ONESIAM SuperApp อย่างต่อเนื่อง
ในการสร้าง ONESIAM SuperApp สยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ อาทิ บริษัท Transformational Perx Technologies ที่เข้ามาช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่บนโลกดิจิทัลที่จะเป็น ประโยชน์ทั้งกับกลุ่มพันธมิตรร้านค้าและคู่ค้า ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าจะได้รับประโยชน์เต็มอิ่มกับสิทธิประโยชน์เหนือระดับผ่าน Loyalty Program รูปแบบใหม่ที่ใช้ VIZ COIN มาแทนการสะสมคะแนนแบบเดิม ช่วยให้คุณสะสมได้ง่ายและใช้ได้สะดวกขึ้น รวมทั้งสนุกเร้าใจกับการจับจ่ายใช้สอยผ่านประสบการณ์แบบเกมมิฟิเคชัน (Gamification)
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ Adobe ผู้ดูแลระบบการจัดการคอนเทนต์ (Content Management) การทำ Personalization ให้กับกลุ่มลูกค้า และ Huawei Technologies ผู้ให้บริการด้าน Cloud Service ซึ่งสยามพิวรรธน์มีแผนที่จะจับมือร่วมกับบริษัทชั้นนำสำหรับการพัฒนาเชื่อมสู่แพลตฟอร์มโลกการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไปในอนาคต โดย ONESIAM SuperApp ตั้งเป้าการดาวน์โหลดไว้ที่ 5 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2565