พบกันอีกครั้งกับบทสัมภาษณ์ Startup ในต่างประเทศที่น่าสนใจ โดยวันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ Loring Harkness จาก Newton Circus ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม
โครงการที่จะนำมาคุยกันในวันนี้คือ openDOOR ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มผู้หญิงที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงความรู้
thumbsup: ช่วยเล่าถึงบริการ openDOOR ให้ฟังหน่อย มีความคิดริเริ่มมาจากไหน และอะไรเป็นแรงบันดาลใจที่สร้างบริการนี้ขึ้นมา
Loring: openDOOR เป็นแพลตฟอร์มทางด้านการศึกษาและการทำงานในรูปแบบดิจิตอล ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับผู้หญิงที่ขาดโอกาส โดยเข้าไปช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟรีคอนเทนต์ทางด้านการศึกษาที่หลากหลายได้ตามต้องการ
openDOOR เปิดโอกาสให้พวกเธอเข้าถึงความรู้และทักษะในหลายๆ ด้าน อาทิเช่น ทักษะทางด้านชีวิต ศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม (รวมถึงภาษาต่างประเทศ) ธุรกิจ สุขภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถของตนเองได้โดยการเลือกบทเรียนที่ตนเองสนใจมากที่สุด
นอกจากนี้ยังช่วยผู้ใช้ให้มีโอกาสสร้างรายได้เสริมโดยการทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในการหาเงินบนโลกดิจิตอล งานดังกล่าวถูกจัดหาโดยบริษัทข้ามชาติ ทาง openDOOR ?รับงานมาและซอยงานดังกล่าวเป็นงานย่อยๆ? ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำได้ งานเล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญเท่าไหร่และสามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ละงานจะมีการจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กๆ น้อยๆ ให้
โดยเฉลี่ยอาจจะได้รับรายได้ระหว่าง 2 ?- 5 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมงขึ้นอยู่กับเนื้องานและระดับทักษะความสามารถ ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ พวกเธออาจจะได้รายได้ดังกล่าว ระหว่างทำงานที่บ้าน ?นั่งอยู่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ หรือบางครั้งจากการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือของพวกเธอเอง
หลักการของ openDOOR และความมุ่งมั่นของพวกเราที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา ก็เพราะเราตระหนักถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งทรงพลังอย่างใหญ่หลวง แต่โอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและงานดีๆ นั้นกลับถูกจำกัด
openDOOR จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยทำให้ผู้หญิงที่ขาดโอกาสเหล่านั้นสามารถเข้าถึงทั้งการศึกษาและงานได้ง่ายขึ้นผ่านทางแพลตฟอร์มของเราและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นตามไปด้วย
thumbsup: คุณมีแผนกลยุทธ์อย่างไร ที่จะสร้างให้แพลตฟอร์มนี้อยู่ได้อย่างยั่งยืน?และอะไรเป็นคุณสมบัติที่แตกต่างจากรายอื่น
Loring:?openDOOR แตกต่างจากแพลตฟอร์มทางการศึกษาแบบดิจิตอลที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายรายอื่น เช่น Khan Academy และ Coursera ในสามข้อด้วยกัน
- คอนเทนต์ทางการศึกษา-ของเรามีทั้งบนออนไลน์และออฟไลน์ผ่านโปรแกรมที่เชื่อมโยงกัน หลายคนอาจสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้แค่ในที่ทำงานหรือโรงเรียน แต่ก็ยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ openDOOR ระหว่างวันและกลับไปเปิดดูที่บ้านโดยเไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในเวลากลางคืนก็ได้
- เราใช้แนวคิดของ Gamification มาใช้?ซึ่งผู้ใช้จะได้รับแต้มสำหรับทุกบทความที่พวกเขาได้อ่านหรือวิดีโอที่พวกเขาได้ดู แต้มเหล่านี้สามารถนำไปแลกรางวัล เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ตั๋วชมภาพยนต์ ส่วนลดสำหรับชั้นเรียนปกติ เป็นต้น
- คอนเทนต์ด้านการศึกษาจะหลากหลายกว่าหัวข้อการศึกษาแบบเดิมๆ ซึ่งมีด้านมนุษย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความยั่งยืน แต่มันยังรวมถึงหัวข้อที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง อย่างเช่น ทักษะการสัมภาษณ์งาน ความปลอดภัยในโซเชียลเน็ตเวิร์ค การป้องกันเชื้อ HIV และเชื้อโรคอื่นๆ เป็นต้น
openDOOR เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงงานเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ ในรูปแบบการรับงานแบบ outsource คล้ายๆ กับ Mechanical Turk ของAmazon งานดังกล่าวมีตลอด 24 ?ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ สามารถทำได้ในเวลาว่าง เช่น ระหว่างเรียนหรือหลังเลิกงาน และงานหลายๆ งานใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในการทำให้เสร็จ นอกเหนือกว่านั้น การศึกษาและการทำงานยังผูกไปด้วยกัน ผู้ใช้สามารถศึกษาเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น เพื่อรับงานที่มีความซับซ้อนและได้ค่าแรงที่สูงขึ้น
thumbsup: ช่วยเหล่าถึงรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายในเชิงลึกหน่อย
Loring: openDOOR ถูกออกแบบสำหรับผู้หญิงที่ขาดโอกาส โดยมี Profile ดังนี้
- 80% ผู้หญิง / 20% ผู้ชาย
- อายุระหว่าง 18 – 40 ปี
- อาศัยในเขตเมือง / เขตชานเมือง
- การศึกษา: มัธยมปลายสายอาชีพ
- ภาษา: ท้องถิ่น + คล่องในการอ่าน เขียนภาษาอังกฤษ
- คอมพิวเตอร์: ?ใช้อีเมล, facebook, เปิดเว็บไซต์ได้, ใช้ MS Office เป็นบ้าง
- ไม่จำเป็นต้องมีประวัติการทำงานมาก่อน (นักเรียน, นักศึกษาจบใหม่, ชนชั้นแรงงาน, แอ๊ดมิน, สายพยาบาล เป็นต้น)
- ค่าแรงที่ได้ในปัจจุบัน: ประมาณ 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้ปฏิเสธคนที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติดังกล่าว
thumbsup: รายได้ของคุณมาจากช่องทางไหน มีโมเดลธุรกิจอย่างไรบ้าง
Loring: รายได้หลักสองอย่างของเรามาจากการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มทางการศึกษาและค่าคอมมิชชั่นจากงานบนแพลตฟอร์มนี้
thumbsup: โครงการนี้ฟังแล้วน่าสนใจมาก คิดจะเปิดตัวเมื่อไหร่
Loring: openDOOR จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 2013 นี้แล้ว
ที่ผ่านมาได้ทดลองโปรแกรมในประเทศพม่า มียอดนักเรียนและครูมากกว่า 100 คนจาก 4 โรงเรียนที่ได้ใช้ โดยในช่วง 5 สัปดาห์ กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม เกือบ 70% ของนักเรียนได้ใช้ openDOOR 4 session หรือมากกว่านั้นต่อสัปดาห์ session หนึ่งมีการใช้งานโดยเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง?? นักเรียนเหล่านั้นได้ให้คำแนะนำที่มีค่าเป็นอย่างมากสำหรับการพัฒนาซึ่งได้รวมอยู่ในเวอร์ชั่นล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
thumbsup: ช่วยเล่าแผนในการเปิดตัวในประเทศต่างๆ
Loring: openDOOR จะเปิดตัวในประเทศไทย พม่า อินโดนีเซียและสิงคโปร์ในช่วงเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 2013 ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศ เราคาดว่าจะมียอดผู้ใช้งาน 50,000 คนใน 3 ตลาดใหญ่ และ10,000 คนในสิงคโปร์ภายใน 6 เดือน
นอกจากนี้เราจะจับมือกับองค์กรท้องถิ่นและนานาชาติที่ปัจจุบันสนับสนุนและช่วยเหลือหญิงเหล่านั้นอยู่แล้ว
thumbsup: คุณช่วยบอกเล่าถึงที่มาของแหล่งเงินทุนให้ฟังหน่อย
Loring: openDOOR เป็นบริษัทร่วมลงทุนของ Newton Circus Pte Ltd และอีกไม่นานจะแยกตัวบริษัทออกมา มีโครงสร้างการจัดการเป็นของตัวเอง เรากำลังมองหานักลงทุนและยินดีที่จะพูดคุยกับกลุ่มนักลงทุนที่สนใจในบริษัทเราด้วยเช่นกัน
thumbsup: คุณมีอะไรที่อยากแบ่งปันให้กับ startup ไทยบ้างเอ่ย
Loring: เรากำลังมองหาพาร์ทเนอร์ในไทยอยู่ ถ้าใครมีไอเดียที่น่าสนใจสำหรับคอนเทนต์ด้านการศึกษา หรือเป็นองค์กรที่สนับสนุนและช่วยเหลือหญิงผู้ขาดโอกาสเหล่านั้นติดต่อเรามาได้เลย
website: www.opendoorhub.com
email: hello@opendoorhub.com
Facebook: www.facebook.com/opendoorhub
Twitter:?@opendoorhub
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*
เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดีขึ้น โดยอาศัยศักยภาพของโลกอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยผลักดัน
แม้ตัวแพลตฟอร์มเองไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่การดึงเอาโลกการศึกษาแบบดิจิตอลมาผูกกับการหารายได้เสริมด้วยแนวคิด crowd-sourcing กลับเป็นไอเดียที่ไปกันได้ (ปกติเรามักเห็น 2 รูปแบบแยกกัน) โดยเห็นได้ชัดจากประโยคนี้ ?ผู้ใช้สามารถศึกษาเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น เพื่อรับงานที่มีความซับซ้อนและได้ค่าแรงที่สูงขึ้น??
ในขณะที่ฟากของธุรกิจมีกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ที่ชัดเจนมาก ทำให้รู้ว่าถ้าจะหาพาร์ทเนอร์ต่อยอดนั้นควรไปในทิศทางใด ซึ่งหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจนี้ก็คือพาร์ทเนอร์ที่จะมาร่วมสร้างคอนเทนต์ และองค์กรที่ช่วยสนับสนุนให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะเทคโนโลยีนั้นไม่ใช่อุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดนี้แต่อย่างใด
thumbsup จะคอยติดตามข่าวคราวของโครงการนี้หลังจากมาเปิดตัวในไทย และนำมาอัพเดตให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน