สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด – 19 ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดและบรษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ หรือ Oxford – AstraZeneca เผยผลการทดลองในเฟส 1 และ 2 ประสบผลสำเร็จด้วยดีในวารสาร Lancet หลังทดลองฉีดวัคซีนกับกลุ่มตัวอย่าง 1,077 ราย
โดยพบว่าวัคซีน ‘ChAdOx1 nCoV-19’ ทำให้ร่างกายของอาสาสมัครสามารถสร้างแอนติบอดี และเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สามารถต่อสู้กับ COVID-19 เกิดผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยซึ่งสามารถลดลงได้โดยการใช้ยาพาราเซตามอล และไม่มีอาการร้ายแรงจากการทดลอง
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ตอนนี้มีการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ทั่วโลกประมาณ 160 ตัวอย่าง แต่ Oxford – AstraZeneca ถือเป็นกลุ่มแนวหน้าของโลกที่จะผลิตวัคซีนสำเร็จเป็นแห่งแรก ๆ และอาจส่งมอบวัคซีนนี้ไปผลิตยังสหรัฐอเมริกาอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตามสำนักข่าว BBC ระบุเบื้องต้นว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้สั่งผลิตวัคซีนดังกล่าวแล้ว 100 ล้านโดส ซึ่งปัจจุบันกำลังทดลองเฟส 2 ควบคู่เฟส 3 ในสหราชอาณาจักร อีกทั้งยังแยกทดลองเฟส 3 ในบราซิลและแอฟริกาใต้อีกด้วย โครงการตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ฉุกเฉินให้ได้ภายในเดือนตุลาคมนี้
หากวัคซีนสามารถผลิตได้ภายในเดือนกันยายน ก็นับเป็นหมุดหมายที่ดีที่โลกจะได้รับวัคซีนได้เร็วขึ้นและลดการสูญเสียจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 นี้ลงได้