เว็บไซต์ Pantip.com ประกาศขับเคลื่อนครั้งใหญ่ พร้อมเปลี่ยนดีไซน์หน้าเว็บไซต์โฉมใหม่ทั้งบนแพลตฟอร์ม Desktop site และ Mobile site มีผล 1 ส.ค. นี้ พร้อมปรับในส่วน Pantip Trend ให้เสิร์ฟคอนเทนต์และกระทู้คุณภาพสูงได้ตรงใจผู้เข้าชมเว็บไซต์ Pantip.com มากยิ่งขึ้น
‘อภิศิลป์ ตรุงกานนท์’ Co-founder & Chief Technology Officer เว็บไซต์ Pantip.com เผยว่าการเปลี่ยนแปลงโฉมใหม่ของเว็บไซต์ Pantip.com ในครั้งนี้เกิดจากการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้หรือ User Research จากสมาชิกผู้ใช้งานจริงในห้องที่มีผู้เข้าชมเยอะ โดยทางทีมงานจะติดต่อกับสมาชิกเพื่อเชิญเข้ามาแชร์ไอเดียของแต่ละคน เพื่อปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์สมาชิกมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง Pantip ได้เปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ครั้งใหญ่ไปเมื่อช่วง 7 ปีที่แล้ว โดยเปิดให้ทดลองใช้ในวันที่ 11-31 ตุลาคม 2555 และเปิดให้ใช้งานเว็บไซต์เวอร์ชันใหม่อีกที ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ในช่วงครบรอบปีที่ 16 และก้าวสู่ปีที่ 17
Pantip คาดการณ์ว่า หลังจากที่ได้เริ่มปล่อยให้ใช้งานเว็บไซต์ Pantip.com โฉมใหม่อย่างเป็นทางการไป 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนแล้ว จะมีการเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์และกระทู้ได้ง่ายมากขึ้น รวมไปถึงจำนวนการคลิกจากผู้ใช้งานในหน้าฟอรั่มและหน้าแท็กเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
สำหรับหน้าเว็บโฉมใหม่ Pantip.com จะเริ่มให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 นี้ น่าจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มตำแหน่งโฆษณาอื่นๆ อีกหรือไม่ ส่วนโลโก้และสีก็น่าสนใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงฉีกไปจากเดิมที่เป็นสีม่วง-น้ำเงินหรือไม่
โดยก่อนหน้านี้เราได้เขียนบทความ Pantip 101 พื้นฐาน pantip.com สำหรับนักการตลาด และนักธุรกิจหน้าใหม่ ที่แนะนำเครื่องมือทางการตลาดที่สามารถใช้ได้
อ่านประกอบ: รวม 7 เรื่องบน Pantip.com ที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน
5 ความเปลี่ยนแปลงสำคัญบน Pantip.com
นอกจากนี้ Chief Technology Officer เว็บไซต์ Pantip.com ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เว็บไซต์ Pantip.com จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไฮไลต์หลักอยู่ 5 อย่าง ได้แก่
1. การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพทั้ง 2 แพลตฟอร์ม
เว็บไซต์ Pantip.com ได้มีการปรับดีไซน์ใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานทั้งในรูปแบบของ Desktop version และ Mobile site จากเดิมที่ผู้ใช้งานสามารถท่องเว็บไซต์บนมือถือได้เฉพาะหน้าฟอรั่ม
การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกเข้าไปที่หน้า Tag ได้แม้จะใช้งานในรูปแบบ Mobile site รวมถึงมีการเพิ่มขนาดตัวอักษรให้อ่านง่ายมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่อง และราบรื่นมากกว่าเดิม
2. นำเสนอคอนเทนต์ของแต่ละห้องให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เพิ่มองค์ประกอบในหน้าฟอรั่มของแต่ละห้อง ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดวางตำแหน่ง และนำเสนอคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น แท็กเกี่ยวกับละครและรายการโทรทัศน์ที่ฉายในวันนั้นๆ ของห้องบางขุนพรหม หรือกระทู้ข่าวด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ให้สมาชิกที่สนใจเรื่องการลงทุนได้เข้ามาอัปเดตข้อมูลทุกวันในห้องสินธร
ทั้งหมดนี้นับเป็นการดึงจุดเด่นของแต่ละห้องเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสนุกให้กับสมาชิกประจำห้องต่างๆ ในเว็บไซต์ Pantip.com อีกด้วย
3. แสดงแท็บ Pantip Trend ให้มองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Pantip Trend หมายถึง กระทู้ที่สมาชิกคลิกเข้ามาอ่านมากที่สุดในรอบ 24 ชม. ที่ผ่านมา โดยสามารถเป็นได้ทั้งกระทู้ใหม่และกระทู้เก่าที่สมาชิกกลับมานิยมอ่านอีกครั้ง ซึ่งจากเดิมผู้ใช้งานจะเห็นแท็บ Pantip Trend วางอยู่ในหน้าแรกของเว็บไซต์ Pantip.com เท่านั้น
แต่ในการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เราได้นำ Pantip Trend ออกมาแสดงให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยถูกเพิ่มเข้าไปอยู่ในทุกๆ ห้อง รวมถึงการแสดงแท็กยอดนิยมในห้องนั้นๆ ด้วย
4. การใช้งานที่เข้าถึงง่ายมากขึ้นด้วย Submenu
จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน เห็นได้ว่าสมาชิกบางห้องให้ความสนใจกับกระทู้ประเภทรีวิวมากกว่ากระทู้อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ห้องบลูแพลนเน็ตและห้องก้นครัว ซึ่งที่ผ่านมาวิธีการเลือกอ่านกระทู้รีวิวโดยเฉพาะค่อนข้างมีความซับซ้อน
ทางทีมงาน Pantip.com จึงได้มีการจัดวาง Submenu ในตำแหน่งใหม่ เพื่อแยกกระทู้ประเภทถามตอบ, พูดคุย, รีวิว, โพล, ข่าว และซื้อขาย ให้มีความชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงกระทู้ที่น่าสนใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
5. ใช้เทคโนโลยี React เพื่อช่วยให้การโหลดข้อมูลบน Mobile site เร็วขึ้น
สำหรับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ Pantip.con ได้มีการเปลี่ยนระบบจาก PHP (Personal Home Page Tool) มาเป็นระบบ React เพื่อให้การใช้งานบนหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์ Pantip.com มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากเดิมการโหลดหน้ากระทู้ ระบบจะต้องโหลดทั้งตัว Layout และตัวคอนเทนต์ ซึ่งใช้เวลาโหลดนานกว่า
การเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่นี้จึงช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโหลดข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม รวมถึงมีประสบการณ์การเล่นเว็บไซต์ Pantip.com ที่ดีมากกว่าที่เคย
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์ของ Pantip.com