Pantip.com กำลังพัฒนาบริการใหม่ด้าน Monitoring เพื่อตอบโจทย์นักการตลาดดิจิทัลสามารถทำ Brand Monitoring ได้ดีขึ้น มั่นใจพร้อมเปิดให้บริการแบรนด์สินค้าต่างๆ ในไตรมาส 2 ปี 2557 นี้
ได้รับการเปิดเผยจาก Pantip.com ว่าขณะนี้ทางบริษัทกำลังพัฒนาบริการใหม่ด้าน Brand Monitoring หรือบริการที่เปิดให้นักการตลาดสามารถเข้าไปติดตามดูว่าผู้บริโภคซึ่งเป็นสมาชิกชาว Pantip ว่าพูดถึงแบรนด์ต่างๆ อย่างไร แต่ขณะนี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ
“ทุกอย่างเกิดขึ้นจากเราได้รับคำแนะนำจากแบรนด์และพันธมิตรของเราหลายๆ คนบอกว่า Pantip น่าจะมีบริการที่ทำให้ทุกคนสามารถทำงานได้สะดวกมากขึ้น อย่างคนที่ทำแบรนด์ก็สามารถดูแลลูกค้าผ่าน CRM tool ของตัวเองมาเพื่อตอบคำถามและคอยดูแลลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งตรงกับแนวคิดด้านการสร้างประโยชน์ให้กับสมาชิก เราจึงจัดสรรทีมงานลงไปพัฒนาระบบนี้อยู่ ในขณะเดียวกันเราก็เตรียมที่จะเปิด Monitoring API ออกมาเพื่อให้พันธมิตรของเราที่เป็นบริษัทด้าน Social Monitoring เจ้าต่างๆ สามารถทำงานได้สะดวกขึ้นด้วย คิดว่าในไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะเสร็จครับ” อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์บริษัทอินเทอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้ง เผย
อภิศิลป์กล่าวต่อไปว่า ระบบ Brand Monitoring นั้น Pantip จะทำเพียงรูปแบบที่คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ง่ายเช่น การค้นหาคีย์เวิร์ดที่ต้องการ มีการแจ้งเตือนทางอีเมลแบบปกติ แต่ถ้าต้องการทำ Brand Monitoring แบบเต็มสูบ ก็แนะว่าให้ใช้ Tool ทางด้าน Social Monitoring ที่หลายคนรู้จักอย่าง KPILogy, OBVOC, SocialEnable, ZocialEye
ระบบ Monitoring API (API – ระบบ API หมายถึงส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (หรือ application programming interface: API) หมายถึงวิธีการที่ระบบปฏิบัติการ ไลบรารี หรือบริการอื่นๆ เปิดให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อเรียกใช้งานได้ )ของ Pantip จะแบ่งออก เป็น 5 แบบดังต่อไปนี้
1. Topic API – ระบบที่เปิดให้พันธมิตรสามารถดึงหัวข้อกระทู้ เพื่อนำไปทำ Sentiment analysis ได้ดีขึ้น
2. Search API – ระบบที่เปิดให้พันธมิตรสามารถหาคีย์เวิร์ดที่ระบุที่ตัวเองต้องการไปใช้ได้ง่ายขึ้น
3. Monitoring API – ระบบ Alert ที่คล้ายกับ Google Alert จะมีการแจ้งเตือนไปเมื่อมีคนพูดถึงคีย์เวิร์ดที่ระบุเอาไว้
4. Oauth API – ไว้สำหรับใครที่อยากจะใช้ระบบล็อกอินพันทิป มีลักษณะคล้าย Facebook Login
5. Comment API – ตอบกระทู้ได้จาก tool ของตัวเอง ไม่ต้องคลิกแล้วกลับมาตอบใน Pantip
นับว่าเป็นข่าวดีของ thumbsupers หลายคนที่ทำงานด้านธุรกิจดิจิทัล เพราะเราจะทำ CRM ได้ดีขึ้น ส่วนคนที่ทำ Tool ก็ยังสามารถเพิ่มระดับความสามารถของ Tool ได้ด้วย เพราะตอนนี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่าบทสนทนาออนไลน์ที่กระทบกับชื่อเสียงของแบรนด์ในไทยนั้น หลีกหนีจาก Pantip ไปได้ยาก
คุณคิดว่าเป็นข่าวดีของคุณหรือไม่? อย่างไร? แชร์กันนะครับ